รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น แจงแนวปฏิบัติ ขรก.กลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 14 วัน ทำงานที่บ้านได้ ไม่นับเป็นวันลา – แต่หากเสี่ยงเพราะประมาทเลินเล่อให้ถือว่าลากิจ
วันที่ 12 มีนาคม 2563 นายสันติธร ยิ้มละมัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในฐานะเลขา ก.จ. ก.ท. ก.อบต. ออกหนังสือซักซ้อมความเข้าใจแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการลาของข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจ้างประจำ และพนักงานจ้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีปฏิบัติตามการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื่อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบุว่า กรณีข้าราชการที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือข้าราชการผู้ซึ่งสัมผัสโรคหรือผู้ใกล้ชิดผู้ป่วย ไม่ว่าจะได้เข้ารับการตรวจคัดกรองและเฝ้าระวังเชื้อโรคดังกล่าวที่โรงพยาบาลหรือไม่ก็ตาม หากปรากฏผลการตรวจคัดกรองยืนยันว่ามีภาวะเสี่ยงหรือติดเชื้อโรค หรือถูกแยกกักหรือกักกันตัว หรือปฏิบัติตามมาตรการที่กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกำหนด จนเป็นเหตุให้ไม่สามารถมาทำงานที่สถานที่ราชการตามปกติได้ ให้ข้าราชการดังกล่าวรีบรายงานพฤติการณ์ที่เกิดขึ้น ต่อผู้บังคับบัญชาตามลำดับจนถึงหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงหรือหัวหน้าส่วนราชการทันที โดยให้ถือว่าข้าราชการดังกล่าวไม่สามารถมาปฏิบัติราชการอันเนื่องมาจากพฤติการณ์พิเศษ และให้ผู้บังคับบัญชาสั่งให้การหยุดราชการของข้าราชการผู้นั้นไม่นับเป็นวันลา ตามจำนวนวันที่ไม่มาปฏิบัติราชการได้
หากสาเหตุที่ทำให้ไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ เกิดจากความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นความผิดของข้าราชการผู้นั้นเอง ให้ถือว่าวันที่ข้าราชการผู้นั้นไม่มาปฏิบัติราชการเป็นวันลากิจส่วนตัว
ทั้งนี้ หัวหน้าส่วนราชการสามารถอนุญาตให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ปฏิบัติงานภายในที่พักได้ 14 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลา และให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มอบหมายงานเป็นรายวันหรือสัปดาห์ โดยกำหนดเป้าหมาย ผลผลิต และตัวชี้วัดการทำง่าน ระบบวิธีการสื่อสาร ติดตาม ประเมินความก้าวหน้า ตามความจำเป็นตามบริบทการทำงานของ อปท. และต้องรายงานผลการตรวจสุขภาพ และปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
สำหรับข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นที่ไม่ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนด ให้ถือเป็นการกระทำความผิดวินัยกรณีไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ