วันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ร่วมประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย
ภายหลังการประชุม พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สั่งยกเลิกศูนย์ควบคุมโรคทั้งในความรับผิดชอบของกองทัพ และ กระทรวงมหาดไทยกว่า 200 แห่งทั่วประเทศ เนื่องจากเกรงว่า การให้กักตัวรวมกันจะยิ่งทำให้การแพร่กระจายของเชื้อเป็นไปได้ง่ายขึ้น จึงมีความเห็นตรงกันว่า ควรจะส่งกลับไปกักตัวตามภูมิลำเนาของตัวเอง พร้อมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคอยดูแลร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขโดยเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ที่สามารถลงโทษตามกฏหมายได้ทันทีหากไม่ให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ ยอมรับครอบครัวของผู้เสี่ยงติดเชื้ออาจจะต้องกักตัวด้วย 14 วัน
“อยากขอร้องไปยังคนในชุมชนว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิ์อยู่ในผืนแผ่นดินไทย โดยเฉพาะภูมิลำเนาของตัวเอง พร้อมยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่แวดล้อม เพราะกลุ่มเสี่ยงจะต้องกักตัวในบ้าน หากพบว่ามีไข้ เจ้าหน้าที่จะส่งตัวไปโรงพยาบาลทันที ขณะเดียวกัน กลุ่มเสี่ยงที่อยู่ระหว่างการกักกันตัว ที่ศูนย์ควบคุมโรคทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3-7 มี.ค. จำนวน 1,882 คน และหลังวันที่ 7 มี.ค. อีก 98 คนจะได้รับความร่วมมือจากกระทรวงคมนาคมจัดรถไปส่งตามภูมิลำเนาโดยเป็นรถระบบปิด ไม่อนุญาตให้จอดระหว่างทางโดยเด็ดขาด” พลเอกอนุพงษ์กล่าว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เพื่อให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองสะดวกมากยิ่งขึ้นและมีอำนาจหน้าที่ในการควบคุมผู้ที่ต้องไปเฝ้าสังเกตอาการที่บ้าน จากนี้จะมีการแต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าพนักงาน ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอสาธารณสุขจังหวัด หรือใครก็ตามที่ รมว.สาธารณสุขเห็นว่ามีความเหมาะสม ซึ่งอยู่ในมาตรา 5 ของพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ว่าด้วยการให้อำนาจ รมว.สาธารณสุขแต่งตั้งเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ