วันที่ 3 เมษายน 2563 นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0810.6/ ว 2032 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนจากผ็สูงอายุที่รับบำนาญจากหน่วยงานของรัฐ เปิดแนวทางการปฏิบัติ กรณีการเรียกเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นคืน จากผู้ที่ขาดสิทธิ ตามลักษณะต้องห้าม ข้อ 6 แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2552 ที่ระบุลักษณะของผู้สูงอายุที่ขาดสิทธิคือ ผู้ที่ได้รับเงินสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจำ หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือ อปท. จัดให้เป็นประจำ รวมไปถึงผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ อปท.
หากผู้สูงอายุที่ขาดสิทธิดังกล่าวได้รับเงินเบี้ยยังชีพไปแล้ว จะเข้าข่ายลักษณะ 4 ลาภมิควรได้ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ อปท.ในฐานะผู้เสียเปรียบต้องระงับการจ่ายเงินทันที จากนั้นให้เรียกคืนเงินตามขั้นตอนดังนี้
- กรณีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพโดยไม่มีสิทธิ ต้องการคืนเงินเต็มจำนวนในครั้งเดียว หากไม่ประสงค์คืนเงิน อปท.สามารถฟ้องร้องเรียกคืนเงินได้ ภายใน 1 ปี นับจากวันที่ อปท. รู้ว่ามีสิทธิเรียกคืน
- กรณีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพโดยไม่มีสิทธิ ขอผ่อนชำระเงินแก่ อปท. ตามระยะเวลาที่ตกลงกันกับ อปท. ให้ดำเนินการตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง หลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการผ่อนชำระหนี้ กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือทายาทได้รับเงินเกินสิทธิหรือได้รับสิทธิหรือได้รับเงินไปโดยไม่มีสิทธิ โดยอนุโลม ทั้งนี้ ให้ทำเป็นหนังสือรับสภาพหนี้และสัญญาผ่อนชำระเป็นลายลักษณ์อักษร
- กรณีผู้สูงอายุดังกล่าวเสียชีวิต ให้บังคับชำระหนี้จากทายาทตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1599 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 1600