3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าหารือ “พิธา” ยื่นข้อเสนอเพิ่ม 29 ข้อ หวังปรับปรุงระเบียบล้าสมัย และปลดล็อกงานให้บริการสาธารณะ เตรียมจัดเวิร์กชอปร่วมระหว่างตัวแทนอปท.และพรรคก้าวไกล 15-16 มิ.ย. นี้
1 มิ.ย. 66 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นายวรภพ วิริยะโรจน์ ทีมเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล รวมทั้งว่าที่ ส.ส.และตัวแทนจากพรรคก้าวไกล ร่วมการประชุมเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะนโยบายด้านการกระจายอำนาจของพรรคก้าวไกลนอกรอบกับ 3 นายกสมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ผศ. (พิเศษ) ดร.วิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย และผู้บริหารท้องถิ่น ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมใหญ่สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย
การประชุมหารือนอกรอบในวันนี้ เป็นการประมวลข้อเสนอและรับฟังความคิดเห็นของ 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และในการประชุมได้ระดมความคิดเห็นเรื่อง “การกำหนดนโยบายเพื่อเตรียมความพร้อมในการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” ได้แก่ 1) การปลดล็อกการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2) การผลักดันให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นหน่วยงานหลักในการจัดการบริการสาธารณะให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทั้ง 3 สมาคม (อปท.) ได้ยื่นข้อเสนอนโยบายเพิ่มเติม 29 ข้อเสนอ ให้พรรคก้าวไกล ประกอบด้วย
สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (อบจ.)
- อำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นตาม พ.ร.บ.จัดตั้งให้กำหนดแต่เฉพาะเรื่องที่ห้ามทำ (Negative list)
- การขับเคลื่อนนโยบายกระจายอำนาจ ต้องทำงานร่วมกับสำนักงานงบประมาณ และควรปรับปรุงโครงสร้างของคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ
- ให้อปท.สามารถหารายได้หลากหลายรูปแบบ เช่น จัดตั้งบริษัทนิติบุคคลได้ การกู้เงิน สหกรณ์
- รัฐไม่ควรแทรกแซงการจัดสรรสัดส่วนรายได้ที่จัดสรรให้อปท.
- การตรวจสอบของหน่วยงานอิสระ เช่น ป.ป.ช. สตง. ต้องไม่กระทบต่อความเป็นอิสระในการทำงานและบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น
- ระเบียบเบิกจ่ายของ อปท.ควรแก้ไขให้ท้องถิ่นสามารถจัดกิจกรรมที่ต้องการได้ เช่น แข่งขันกีฬา
- ให้ประมวลรัษฎากร ยกเลิกระบบภาษีที่ไปรวมที่ส่วนกลาง
- ควรให้มี “สภาท้องถิ่นแห่งชาติ” เป็นหน่วยงานหลัก ทำหน้าที่สนับสนุนการจัดบริการสาธารณะและถ่ายโอน
สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (ส.ท.ท.)
- การแก้รัฐธรรมนูญ ในหมวดการปกครองท้องถิ่น ทางสมาคมฯ ร่วมกับนักวิชาการกำลังยกร่างปลดล็อกท้องถิ่นของสมาคมท้องถิ่น
- ระเบียบที่ล้าสมัยและเป็นอุปสรรค ต้องแก้ไขปรับปรุง หรือยกเลิก
- หน่วยงานกำกับดูแล ต้องไม่ใช่การควบคุมสั่งการ และให้มีการกำกับดูแลโดยประชาชน
- การวินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทระหว่างหน่วยงาน ให้เป็นอำนาจของศาลปกครอง แทนผู้กำกับดูแล
- ควรแยกงบอุดหนุนเฉพาะกิจออกจากสัดส่วนรายได้ของอปท. เช่น นมโรงเรียน เบี้ยผู้สูงอายุ อาหารกลางวัน ฯลฯ
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม ควรจัดสรรเพิ่มให้ท้องถิ่น
- ท้องถิ่นควรออกแบบการจัดเก็บภาษีได้เองเพิ่ม รวมทั้งมีอำนาจในการลงทุน การออกพันธบัตร
- แก้ระเบียบการใช้เงินสะสมของ อปท.เพื่อให้การใช้เงินสะสมคล่องตัวขึ้น
สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย (อบต.)
- การจัดสรรรายได้ต้องเป็นไปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระหว่าง อบต.
- ยกเลิกการจัดสรรเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ
- มี อบต.ที่มีรายได้ไม่พอต่อการพัฒนา ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากต้องดูแลเร่งด่วน
- ปรับเพิ่มฐานภาษีสำหรับอบต. เช่น ภาษีโรงงาน
- ปลดล็อกให้ อปท.นำทรัพยากรที่อยู่ในเขตพื้นที่มาใช้ เพื่อจัดบริการสาธารณะและหารายได้ อาทิ แหล่งน้ำ อาคารสถานที่ราชการเก่า
- อปท.ต้องมีโครงสร้างของท้องถิ่นระดับชาติ เช่น การตั้งสภาท้องถิ่นแห่งชาติ
- งานบุคคลท้องถิ่น นายก อปท.ควรมีอำนาจบริหาร เช่น การโยกย้าย รับโอน เสนอให้ ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่ 8/60 รวมศูนย์อำนาจส่วนกลาง ยกเลิกระบบส่วนกลางสอบแล้วส่งคนไปบรรจุในท้องถิ่น
- การบรรจุ แต่งตั้ง เลื่อนตำแหน่งบุคลากร ควรให้ อปท.สอบสัมภาษณ์ และสถาบันทางการศึกษาวัดความรู้ทางวิชาการ
- คณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ ต้องไม่ทำงานแบบธุรการทั่วไป ต้องมีการปรับทั้งโครงสร้างและที่มา ให้ตอบโจทย์การทำหน้าที่กระจายอำนาจและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
- อปท.จัดบริการสาธารณะ ต้องยกเลิกการขออนุญาต อนุมัติ จากหน่วยงานส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค
- ปรับโครงสร้างยกฐานะอบต.เป็นเทศบาลต้องยึดเจตนารมณ์ประชาชน มิใช่พิจารณาที่เกณฑ์รายได้และเกณฑ์ประชากร
- การขยายเขตไฟฟ้า ประปา รัฐวิสาหกิจต้องลงทุนเอง หากอปท.ลงทุนให้ต้องแบ่งรายได้คืนให้อปท.ด้วย
- ที่ดินวัด ซึ่ง อปท.ขอใช้ เพื่อจัดบริการสาธารณะ ไม่ควรจัดเก็บค่าเช่า
ทั้งนี้ หลังการประชุม ตัวแทนจากทั้งพรรคก้าวไกลและ 3 สมาคม อปท. ได้หารือกำหนดวันและแผนการจัดทำเวิร์กชอปร่วมกัน ระหว่างตัวแทน อปท. และพรรคก้าวไกล เพื่อประมวลข้อเสนอจากทั้งสองฝ่ายเข้ามาร่วมกัน โดยเฉพาะในการเพิ่มเติมข้อเสนอเกี่ยวกับการแก้ไข และยกเลิกระเบียบต่างๆ ของส่วนกลาง ให้ครอบคลุมทุกมิติของการเปลี่ยนผ่านสู่การกระจายอำนาจ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 15-16 มิ.ย. 66
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กล่าวว่า “เชื่อว่าเป้าหมายที่พวกเราต่างอยากเห็นร่วมกัน ก็คือ การกระจายความเจริญ กระจายอำนาจ กระจายงบประมาณ กระจายบุคลากร และการกระจายภารกิจ ซึ่งพรรคก้าวไกลมีแผนการทั้งในระยะ 100 วันแรก 1 ปีแรก และ 4 ปีแรกของรัฐบาล ที่พรรคก้าวไกลขอนำเสนอเพื่อขอรับฟังความคิดเห็นจากทุกคนในวันนี้ ” กล่าวคือ
- ภายใน 100 วันแรก ยกเลิกระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เป็นอุปสรรคต่อการกระจายอำนาจและการทำงานของท้องถิ่น รวมถึงคำสั่ง คสช. 8/2560 เพื่อคืนอำนาจการคัดเลือกบุคลากรให้ท้องถิ่น ให้ท้องถิ่นสามารถทำบริการสาธารณะได้ทั้งหมดยกเว้นที่ห้ามทำ รวมทั้งการแก้ไข พ.ร.บ.แผนขั้นตอนการกระจายอำนาจ และแก้ไข พ.ร.บ.จัดตั้ง 5 ท้องถิ่น ให้ออกระเบียบการเบิกจ่ายเองได้
- ภายใน 1 ปีแรก จัดทำประชามติให้มีการเลือกตั้งผู้บริหารจังหวัด และยกเลิกราชการส่วนภูมิภาค พร้อมกับการแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการท้องถิ่นให้สอดคล้องกัน
- ภายใน 4 ปีแรก บรรลุเป้าหมายการถ่ายโอนภารกิจ งบประมาณ และบุคลากร โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2 แสนล้านบาทต่อปีภายใน 4 ปี
“ไม่มีอะไรท้าทายเกินความคาดหวังของประชาชน การกระจายอำนาจมีทั้งสิ่งที่ทำได้โดยรวดเร็ว มีทั้งสิ่งที่ทำได้อย่างรวดเร็ว และต้องรอบคอบ และมีสิ่งที่ต้องอาศัยส่วนร่วมจากประชาชน มีเรื่องที่รัฐบาลทำได้เลย มีเรื่องที่ต้องทำประชามติ และบางเรื่องต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งหมดนี้ผมมั่นใจว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจและสบายใจร่วมกัน ว่าการกระจายอำนาจไม่ใช่เรื่องสุดโต่ง แต่เป็นสิ่งที่จะนำความเจริญมาสู่พี่น้องประชาชนคนไทย และประเทศไทย” นายพิธา กล่าว