อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กำชับหน่วยงานของกรมร่วมมือท้องถิ่น เร่งสรุปปัญหา-อุปสรรคครอบคลุม ทั้งการบริหารงานบุคคล การเงินการคลัง การบริหารจัดการ แผนงานภารกิจ เพื่อวางแผนการถ่ายโอนระยะต่อไปให้มีประสิทธิภาพ
นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบัน มีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จำนวน 49 แห่ง ขอรับการถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินีและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) จำนวน 3,363 แห่ง
ส่งผลให้มีการถ่ายโอนบุคลากรที่เกี่ยวข้องจำแนกเป็น ข้าราชการ 11,978 คน และลูกจ้างประจำ 59 คน พนักงานราชการ 12 คน พนักงานกระทรวงสาธารณสุข (พกส.) 4,919 คน และลูกจ้างประเภทอื่นๆ จำนวน 4,891 คน ซึ่งในกระบวนการถ่ายโอนภารกิจ ทำให้พบปัญหาและอุปสรรคต่างๆ จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด สถ. ประกอบด้วย สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น สำนักบริหารการคลังท้องถิ่น และกองสาธารณสุขท้องถิ่น จัดประชุมผ่านระบบ Web Conference เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 3 พ.ย. 2565 เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจ และร่วมสรุปปัญหาในการถ่ายโอนภารกิจของ รพ.สต. ให้ครอบคลุมทุกมิติ
ทั้งด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการเงินการคลัง ด้านการบริหารจัดการ ด้านการกำหนดแผนงานภารกิจ โดยมีตัวแทนจาก อบจ. ทั้ง 76 จังหวัด และตัวแทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดเข้าร่วมประชุม ซักถาม และสรุปปัญหาร่วมกัน ทั้งนี้ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาให้ทันท่วงที และวางแผนการถ่ายโอน รพ.สต. ในระยะต่อไป.
อธิบดี สถ. กล่าวว่า สำหรับการดำเนินงานในระยะต่อไป จะได้ดำเนินการซักซ้อมความเข้าใจในการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเงินอุดหนุน โดยเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร และค่างบดำเนินงาน นอกจากนั้น ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ รายการเงินอุดหนุนสำหรับพัฒนาคุณภาพการให้บริการด้านสาธารณสุขของสถานีอนามัยที่ถ่ายโอนให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เป็นไปตามแนวทางแนบท้ายประกาศ ฯ ดังนี้ 1) รพ.สต. รับผิดชอบประชากร ไม่เกิน 3,000 คน สนับสนุนแห่งละ 1 ล้านบาท (ปีงบ 2566 ได้รับ 400,000 บาท ) 2) รพ.สต. รับผิดชอบประชากร 3,000 – 8,000 คน สนับสนุนแห่งละ 1.5 ล้านบาท (ปีงบ 2566 ได้รับ 650,000 บาท ) 3) รพ.สต. รับผิดชอบประชากร ตั้งแต่ 8,000 คน สนับสนุนแห่งละ 2 ล้านบาท (ปีงบ 2566 ได้รับ 1 ล้านบาท )
นายขจร ศรีชวโนทัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในระยะต่อไป จะต้องมีการพิจารณาทบทวนและเสนอขอแก้ไขปรับปรุงระเบียบกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเงินบำรุงโรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานบริการสาธารณสุขขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว ทั้งต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมแนวทางการจ้างบุคลากรทุกประเภทที่ถ่ายโอนให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่นเป็นหลักตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่นและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
“สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น สำนักบริหารการคลังท้องถิ่น และกองสาธารณสุขท้องถิ่น พร้อมด้วยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดทั่วประเทศ มีความพร้อมที่จะให้คำปรึกษา คำแนะนำกับผู้นำท้องถิ่น และบุคลากรในสังกัด รพ.สต. ทุกแห่ง ทั้งที่ทำการถ่ายโอนเรียบร้อยแล้ว และกำลังเตรียมการถ่ายโอน ทั้งนี้ หากมีข้อหารือ ในชั้นต้นขอให้ประสานมายังท้องถิ่นจังหวัดทุกจังหวัดได้ทันที เพื่อให้การถ่ายโอนภารกิจด้านสาธารณสุขเป็นไปด้วยความราบรื่น และเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการถ่ายโอนภารกิจในระยะต่อไป” อธิบดี สถ.กล่าว