วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบหลักการส่งเสริมการใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ที่ยังไม่มีอาการ เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาและลดภาระระบบสาธารณสุขตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ที่ผ่านมากรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการมาตรการเชิงป้องกันความรุนแรงของโรคโควิด-19 ด้วยการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งมีสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide) ที่มีศักยภาพในการป้องกันเชื้อไวรัสเข้าสู่เซลล์และลดการแบ่งตัวของไวรัสใช้รักษาในกลุ่มผู้ต้องขังที่มีอาการไม่รุนแรงจำนวน 1.18 หมื่นคน พบว่าได้ผลดีสามารถรักษาผู้ต้องขังหายแล้ว ร้อยละ 99.02 จากยอดผู้ต้องขังที่ติดเชื้อโควิด
ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้มอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศปลูกสมุนไพรประเภทต่างๆ โดยเน้นการปลูกฟ้าทะลายโจรและกระชายขาวเป็นหลักในพื้นที่141 ไร่ซึ่งเป็นการเริ่มต้นเพื่อช่วยผู้ต้องขังในเรือนจำที่ติดเชื้อโควิค-19 และโรคอื่นๆ รวมทั้งเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับประชาชนทั่วไปด้วย
นอกจากนั้น ที่ประชุมยังได้กำชับถึงการส่งเสริมใช้ยาฟ้าทะลายโจรในการรักษาผู้ป่วยโควิดที่ยังไม่มีอาการ จะต้องชี้แจงแนวทางให้ชัดเจน เช่น แนวทางการรักษา ปริมาณยาที่เหมาะสมต่ออาการของผู้ป่วย ข้อควรระวัง อาการข้างเคียง แนวทางการผลิตและจัดจำหน่าย เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปริมาณยาฟ้าทะลายโจรที่เหมาะสม จะต้องมีปริมาณสารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide)ที่ผู้ป่วยควรได้รับปริมาณ 180 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งเป็น 60 มิลลิกรัมต่อมื้ออาหาร จึงจะได้ผลชัดเจน
นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์พิจารณาหาแนวทางมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้มีการกักตุนสินค้ายาฟ้าทะลายโจร ตลอดจนควบคุมราคาของยาฟ้าทะลายโจรและสมุนไพรอื่น ๆ ให้มีความเหมาะสมและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน