นายกสมาคม อบจ.ฯ ส่งหนังสือขอความชัดเจนจากมหาดไทย หลังถูกเบรกซื้อวัคซีน ชี้กฎหมายหลายฉบับให้อำนาจท้องถิ่นจัดการ
วันที่ 31 พฤษภาคม 2564 นายสมศักดิ์ กิตติธรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ในฐานะนายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากได้มีองค์การบริหารส่วนจังหวัดหลายจังหวัดได้หารือมายังสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางปฏิบัติในการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ Covid-19 เพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยที่ไม่ขัดต่อข้อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพราะว่าก่อนหน้านี้กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ได้เคยมีหนังสือด่วนที่สุด ที่ มท 0808.2/ว 252 ลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ให้แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ โดยอ้างถึงคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่แจ้งมายังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 กระทรวงมหาดไทย ว่า อปท. ไม่สามารถจัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อฉีดให้กับประชาชนได้
รวมทั้งหนังสือสั่งการฉบับอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันและรักษา รวมทั้งการช่วยเหลือประชาชน ในกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่สั่งการมายัง อปท. อีกหลายฉบับ ซึ่งได้ก่อให้เกิดความสับสนในแนวทางปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง
สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ากฎหมายและระเบียบ หลายฉบับได้บัญญัติให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรค ดังนี้
1. กฎกระทรวง พ.ศ.2541 ออกตามความในพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 (14) การป้องกันและบำบัดรักษาโรค
2. พระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 องค์การบริหารส่วนจังหวัดมีอำนาจหน้าที่ (19) การจัดให้มีโรงพยาบาลจังหวัด การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ
3. แผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฉบับที่ 2 ด้านที่ 2 งานส่งเสริมคุณภาพชีวิต ข้อ 4 แผนภารกิจด้านสาธารณสุข 2.4.1 (1) การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรคและการรักษาพยาบาลเบื้องต้น
4. ระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพ.ศ. 2560 หมวด 5 การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ ข้อ 13,14 และ 15
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับวิธีดำเนินการนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและจะได้ยึดถือเป็นแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องตรงกันและไม่เกิดปัญหากับหน่วยตรวจสอบในอนาคต สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จึงมีหนังสือหารือไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอหารือถึงแนวทางปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ในกรณีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจะดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดตัวเอง
2. กรณีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่น ดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดตัวเอง
3. กรณีที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดร่วมมือกับหรือหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่ของจังหวัดตัวเอง
4. กรณีอื่นๆ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสามารถดำเนินการได้
“ส่วน อบจ.ไหน จะใช้วิธีไหน ก็ขึ้นอยู่กับบริบทและดุลยพินิจของผู้บริหารแต่ละ อบจ. สิ่งที่อยากจะฝากอีกประการคือ เนื่องจากบริบทและสถานะทางการคลังรวมถึงรายได้ของแต่ละ อบจ.มีไม่เท่ากันบาง อบจ.มีรายได้มาก มีเงินสะสมมากก็สามารถที่จะดำเนินการได้อย่างเต็มที่ ส่วน อบจ.เล็กๆที่มีรายได้น้อยมีเงินสะสมน้อย จะทำอย่างไรและตอนนี้รายได้ของ อบจ.ก็ลดลงทั้งในส่วนของเงินอุดหนุน และการจัดเก็บภาษีทุกประเภทก็ลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และเชื่อว่าหลังจากนี้ถ้ามีบาง อบจ.ใช้งบประมาณดำเนินการได้แต่อีกหลาย อบจ.ไม่มีงบประมาณที่จะดำเนินการ ก็จะเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำของประชาชนแต่ละจังหวัด ซึ่งก็ต้องฝากให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้พิจารณาเรื่องนี้ด้วย” นายกสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทยกล่าว