หญิงเหล็กแห่งเมืองสองแคว “เปรมฤดี ชามพูนท” อดีตนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก 4 สมัย หัวหน้ากลุ่ม คณะลูกนเรศวร กลับมาทวงเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกสำเร็จอีกครั้ง
อดีตนายกเทศมนตรีหญิง 4 สมัย ไม่ธรรมดา! “เปรมฤดี” เป็นภรรยา “สุชน ชามพูนท” นักการเมืองรุ่นใหญ่ระดับตำนาน ครองตำแหน่ง ส.ส.พิษณุโลกถึง 14 สมัย ประวัติทางการเมืองไม่ธรรมดา เคยดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง 2 สมัย ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกสุจินดา คราประยูร เป็นรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย สมัยนายชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรี และในสมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปัจจุบัน สุชน ชามพูนท เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2561 ด้วยวัย 81 ปี
(สุชน ชามพูนท)
ฝ่ายสามีลงเล่นการเมืองระดับชาติ ขณะที่ภรรยาก็ครองพื้นที่ในสนามท้องถิ่นมายาวนานเช่นกัน เปรมฤดี ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีมาตั้งแต่ปี 2538 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2555 จนกระทั่งการเลือกตั้งท้องถิ่นในปี 2555 มีเหตุให้ต้องเว้นวรรคไป เพราะคุณสมบัติไม่ผ่าน
กลุ่มลูกนเรศวรแก้เกมโดยส่ง “บุญทรง แทนธานี” มาแทน เปรมฤดี เป็นที่รู้กันในการเลือกตั้งครั้งนั้นว่า ถ้าจะเลือก เปรมฤดี ให้เลือก บุญทรง สุดท้าย บุญทรงก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี พร้อมกลุ่มสมาชิกสภาเทศบาลจากทีมเดียวลูกนเรศวรทั้งทีม และอยู่ยาวมาเกือบ 9 ปี ด้วยอิทธิฤทธิ์ของคำสั่ง คสช. จนกระทั่ง กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ลงวันที่ 1 ก.พ. 64
แม้จะไม่ได้ลงเอง แต่กลุ่มของ เปรมฤดี ภายใต้บารมีตระกูล ชามพูนท ยังคงได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวพิษณุโลกมาอย่างยาวนาน สะท้อนความเป็นตัวจริง ของนายกเทศมนตรีหญิงรุ่นเก๋า บวกกับอุปนิสัยที่ไม่ค่อยขัดแย้งกับใคร กระทั่งนักการเมืองท้องถิ่นด้วยกันก็ยังให้ความเคารพนับถือ
(เปรมฤดี ชามพูนท)
เปรมฤดี ยังเป็นผู้หญิงคนที่ 2 ที่ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนนายกเทศมนตรีภาคเหนือ ดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย คนที่ 21
การกลับมาครั้งนี้ เปรมฤดี ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก หมายเลข 2 ลงชิงชัยกับ “สุรเดช วงษ์บา” ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 1 และ “บวรเดช หล้าแหล่ง” ผู้สมัครหมายเลข 3
(บวรเดช หล้าแหล่ง)
“บวรเดช” นักธุรกิจหนุ่มค้าทองวัย 41 ปี เป็นคู่แข่งที่ทำให้อดีตนายกเทศมนตรี 4 สมัย ร้อนๆ หนาวๆ เขาเคยลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 พิษณุโลก พรรคไทยรักษาชาติ ภายใต้ทีมของป๋าดันอย่าง “จาตุรนต์ ฉายแสง” ที่ลงมาช่วยหาเสียงถึงในพื้นที่ ผลพวงจากการลงสมัคร ส.ส. บวรเดช เป็นที่รู้จักมากขึ้น ภูมิหลังเขาทำงานในมูลนิธิร่วมกตัญญูมากว่า 16 ปี ทำงานด้านอาสาไม่เคยขาด จึงได้ใจคนนครพิษณุโลกไปไม่น้อย หลังฟอร์มทีมได้ เขาจึงลงชิงชัยในสนามท้องถิ่น ภายใต้กลุ่ม “รักพิษณุโลก”
การนับคะแนนการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครพิษณุโลกหลังปิดหีบ ปรากฏว่า “เปรมฤดี” และ “บวรเดช” มีคะแนนตีคู่กันมาตลอด ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย โดยเปรมฤดี ได้ 11,212 คะแนน ขณะที่ บวรเดชได้ 10 ,968 คะแนน เฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิดเพียง 200 กว่าคะแนน งานนี้เป็นการกลับมาในสมัยที่ 5 ของ เปรมฤดี รุ่นใหญ่วัย 77 ปี ที่เรียกได้ว่าลุ้นกันลมแทบจับเลยทีเดียว