เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีหมายเลขดำที่ อม. 154/2561 และคดีหมายเลขแดงที่ อม. 45/2562 ลงวันที่ 21 เดือนมีนาคม 2562 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ร้อง และนางสาวกิจปภา ประสิทธิเวช ผู้ถูกกล่าวหา โดย ป.ป.ช. ได้ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยว่า นางสาวกิจปภา ประสิทธิเวช ในขณะที่ดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลหาดเล็ก อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารต่อ ป.ป.ช. ด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สินหรือหนี้สินนั้น กรณีพ้นจากตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี
ทั้งนี้ ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ และให้คำชี้แจงว่า กรณีเงินฝากธนาคาร บางบัญชีลืมยื่นเนื่องจาก ขณะที่ยื่นสมุดบัญชีไม่ได้อยู่กับตน บางบัญชีเปิดเพื่อค้ำประกันค่าไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และไม่ได้ทำธุรกรรมด้านอื่นจึงเข้าใจว่าไม่ต้องยื่น กรณีเงินลงทุนมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นเนื่องจากเพื่อนขอใช้ชื่อ เพราะเชื่อในเรื่องของหลักฮวงจุ้ย ประกอบกับไม่มีความรู้ความเข้าใจในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สิน กรณีรายการเงินเบิกเกินบัญชี เป็นบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดไม่ทราบว่าต้องแสดงด้วย และบางส่วนเข้าใจว่าชำระหนี้ครบถ้วนแล้วจึงไม่ได้แสดง และหนี้สินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือนั้น ณ วันที่ยื่นบัญชี แสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินผู้ถูกกล่าวหาชำระหนี้หมดแล้ว และบางส่วนแสดงยอดตามใบเสร็จที่เจ้าหนี้แจ้งมา
ศาลพิพากษาว่า นางสาวกิจปภา ประสิทธิเวช ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ โดยให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี รวมถึงมีโทษจำคุก 2 เดือน และปรับ 8,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน และปรับ 4,000 บาท ทั้งนี้ ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี