เปิดแนวคิด “คนท้องถิ่น” กับการใช้กีฬาสร้างมุมมองใหม่ให้ “นครยะลา” สู่การฟื้นฟูเมือง เศรษฐกิจ และสินค้าพื้นถิ่น เพื่อการพัฒนาท้องถิ่นแบบยั่งยืน
วันที่ 26 กรกฎาคม 2562 นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา จังหวัดยะลา เปิดเผยกับ “นิตยสารผู้นำท้องถิ่นออนไลน์” ถึงการจัดงาน YALA MARATHON 2019 หรือการจัดวิ่ง ยะลามาราธอน 2562 การแข่งขันเดิน-วิ่งเพื่อส่งเสริมกิจกรรม การท่องเที่ยว ผลิตผลในท้องถิ่น สนับสนุนให้ประชาชนในพื้นที่มีกิจกรรมร่วมกัน และจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาด้านการศึกษาของเยาวชนในพื้นที่ จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม 2562 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักวิ่งทั่วประเทศ จนมีจำนวนผู้สมัครเข้ามารวมกว่า 5,000 คน และได้ปิดรับสมัครไปแล้ว
(ภาพจากเพจ เทศบาลนครยะลา)
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ กล่าวถึงที่มาของการจัดงานวิ่งมาราธอนครั้งแรกของเมืองยะลาว่า การจัดงานยะลามาราธอน 2562 เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นฟูจังหวัดยะลาในภาพลักษณ์ใหม่ หลังจากสถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ได้คลี่คลายลง เทศบาลนครยะลาก็ได้เล็งเห็นว่าการวิ่งมาราธอน ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมหลังจากที่ คุณตูน บอดี้สแลม ที่ได้เริ่มต้นวิ่งหาทุนช่วยโรงพยาบาลในพื้นที่หลายจังหวัด โดยเริ่มต้นจากจังหวัดยะลา เทศบาลนครยะลาก็เลยได้จัดให้มีการวิ่งยะลามาราธอนขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกของเราในการจัดงานวิ่งครั้งนี้
นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวต่อว่า เทศบาลฯ ต้องการจัดให้งานวิ่งครั้งนี้มีมาตรฐานมากที่สุด ตั้งแต่ในเรื่องของระยะทางและเส้นทางวิ่ง จึงได้ขอให้สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยมาตรวจสอบและรับรองเส้นทาง ขณะเดียวกันระบบของการจัดการแข่งขันต่างๆ เราก็ใช้บริษัทที่เป็นมืออาชีพ มีผลงานจัดมาราธอนในประเทศไทยเป็นที่เชื่อถืออยู่ในระดับต้นๆ ของประเทศ การจัดอายุผู้เข้าแข่งขัน การจัดประเภทของการวิ่งต่างๆ เราอยากให้มีมาตรฐานและเป็นบรรทัดฐานที่ดี ต่อการจัดงานวิ่งมาราธอนในครั้งต่อๆ ไป
(เมืองยะลา : ผังเมืองสวยอันดับที่ 23 ของโลก)
สำหรับคำถามที่ว่า ทำไมจึงจัดให้มีการวิ่งในเดือนสิงหาคม ที่เป็นช่วงฤดูฝน นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวว่า จังหวัดยะลาเองก็ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีผลไม้ที่ดีเป็นจำนวนมาก เป็นเมืองแห่งผลไม้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากยะลามีสภาพภูมิอากาศที่มีความเอื้ออำนวย มีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ แต่ผลไม้ในจังหวัดในยะลาเองนั้นน้อยคนที่จะรู้จัก ทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นช่องว่างให้กับพ่อค้าคนกลางได้เข้ามาหาประโยชน์จากคนในพื้นที่ ดังนั้นเทศบาลฯ จึงหวังว่าการจัดวิ่งมาราธอนครั้งนี้ จะช่วยเปิดตัวผลไม้ของยะลาให้เป็นที่รู้จัก เราก็เลยเลือกในช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงที่มีผลไม้ออก ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ที่ทุกคนรู้จัก เช่น ทุเรียน ลองกอง หรือผลไม้เฉพาะถิ่นที่อาจจะหายากในพื้นที่อื่น เช่น จำปุริ้ง ลังแข เป็นต้น เราก็หวังว่าการที่คนมาวิ่งจำนวนมาก และมาลิ้มรสผลไม้ในยะลา ก็จะทำให้รู้จักยะลาในมุมมองของเมืองผลไม้เช่นเดียวกัน
ด้านการมีส่วนร่วมของคนในท้องถิ่น นายกเทศมนตรีนครยะลา เผยว่า คนในพื้นที่มีการตื่นตัวต่อการจัดงานวิ่งมาราธอนครั้งแรกสูงมาก โดยเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นบริษัท ห้างร้านต่างๆ ที่ช่วยสนับสนุนเงินทุนต่างๆ ในการดำเนินการ หรือมาร่วมเป็นกองเชียร์ ซึ่งทางเทศบาลฯ ก็ได้รับการติดต่อประสานงานมาจากชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ที่จะขอเข้ามาร่วมในการเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการวิ่งในครั้งนี้
สำหรับการเตรียมความพร้อมของทางเทศบาลนครยะลา นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของเทศบาลฯ เองถือว่าเป็นครั้งแรก เพราะฉะนั้นสิ่งที่เราปรับเปลี่ยนคือ เราพยามจะดูในทุกรายละเอียด ทุกขั้นตอน ทุกเรื่อง ตั้งแต่เส้นทางวิ่ง การเชียร์ต่างๆ การบริการน้ำ และอาหาร จัดทีมปฐมพยาบาลในกรณีที่มีอุบัติเหตุฉุกเฉินต่างๆ ตรงนี้เราดูทั้งหมด
“ในเส้นทางการวิ่ง จะมีนโยบายที่ชัดเจนว่าจะปิดถนน 100% ทุกทางแยก หมายถึงว่าทุกทางแยกต่างๆ จะมีเจ้าหน้าที่คอยปิดเพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืนเข้ามา ในขณะเดียวกัน การให้น้ำต่างๆ ก็จะต้องมีความเพียงพออยู่ในระยะที่มาตรฐาน การส่งการสนับสนุนต่างๆ ต้องทำได้อย่างสะดวก ซึ่งสิ่งเหล่านี้เทศบาลมีการซ้อมในทุกระบบ ซ้อมเสมือนจริง เพื่อให้มีความมั่นใจว่าเมื่อถึงงานจริงแล้วจะไม่เกิดปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น นี่คือนโยบายของเทศบาลฯ มีการประชุมกันแทบทุกวันที่จะสร้างความมั่นใจให้กับนักวิ่ง”
นายกเทศมนตรีนครยะลา กล่าวปิดท้ายว่า เทศบาลฯ หวังว่าสิ่งที่เราได้ทำในวันนี้ นอกจากจะเป็นการฟื้นฟูเมืองแล้ว ในฐานะการเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นแบบเรียนอีกอย่างหนึ่งในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยใช้กีฬาไปเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจในพื้นที่ ใช้กีฬาเชื่อมโยงกับการสร้างภาพลักษณ์ของตัวสินค้าในพื้นได้เช่นเดียวกัน เราก็หวังว่าความเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของพวกเรา ที่มีการผนึกกันเป็นเครือข่าย ก็คงจะมีโอกาสได้เรียนรู้ และร่วมแชร์ประสบการณ์ การสร้างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของเราให้มีความเข้มแข็งต่อไป