3 สมาคมท้องถิ่น ยื่นหนังสือหารือ คกก.กระจายอำนาจฯ 4 ข้อ ถกปมผู้ตรวจการแผ่นดินเบรก อปท.จัดซื้อวัคซีนโควิด-19 บริการฉีดประชาชนในพื้นที่ ถาม “ทำได้หรือไม่?”
วันที่ 11 พฤษภาคม 2564 – 3 สมาคมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย ได้มีหนังสือถึง ประธานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประธานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อขอหารือประเด็นการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน กรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 เพื่อฉีดให้ประชาชน
จากกรณี เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ระบุว่า ผู้ตรวจการแผ่นดินได้มีคำวินิจฉัยและข้อเสนอแนะต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจกฎหมาย โดยเฉพาะสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน วัคซีนป้องกันมีปริมาณจำกัด ประกอบกับเพื่อให้การบริหารจัดการวัคซีนเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีความเสี่ยงสูง รวมทั้งเกิดความปลอดภัยกับผู้ได้รับวัคซีนอย่างสูงสุด
จึงขอให้ สถ. ประชาสัมพันธ์ให้ภาคเอกชน หรือ อปท. ที่เตรียมจัดซื้อวัคซีน ได้ทราบว่า ระยะแรกกำหนดให้ภาครัฐเท่านั้นที่จะดำเนินการซื้อและบริหารจัดการวัคซีน และการจายวัคซีนได้ เพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และเพื่อให้สามารถติดตามอาการไม่พึงประสงค์ภายหลังได้รับวัคซีน จึงไม่สามารถให้เอกชนหรือ อปท. จัดซื้อวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับผู้ผลิตได้โดยตรง นั้น
ทั้ง 3 สมาคม ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กฎหมายหลายฉบับได้บัญญัติให้อำนาจ อปท. แต่ละประเภทในการป้องกันและระงับโรคติดต่อ ประกอบกับโรคโควิด-19 คือโรคระบาดอย่างหนึ่งซึ่ง อปท. สามารถที่จะดำเนินการได้ตามอำนาจหน้าที่ ดังนั้นการวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ย่อมขัดแย้งกับภารกิจและอำนาจหน้าที่ของ อปท. ที่พึงกระทำได้ตามอำนาจหน้าที่ที่ได้บัญญัติไว้ตามกฎหมาย และยังทำให้ อปท.สูญเสียโอกาสในการจัดบริการสาธารณะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งให้กับประชาชนในพื้นที่
พร้อมทั้งขอให้ตอบประเด็นคำถาม 4 ข้อ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ ได้แก่
- ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจในการวินิจฉัยในกรณีดังกล่าว หรือไม่
- คำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน ถูกต้องหรือไม่
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือไม่
- องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะมีแนวทางปฏิบัติต่อกรณีดังกล่าว อย่างไร