นายก อบต.บ้านใหม่ แฉเจ้าหน้าที่ อบต.ชุดเก่า ปี 56 ออกเอกสารเบิกเงินเท็จ เปิดเช็ค 110 ฉบับ มีแค่ 1 ฉบับที่ทำถูกต้อง เพียง 1 ปีสูญเงินไปกว่า 7 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ เป็นภาพเอกสารลับมาก และระบุข้อความว่า “อบต. ไหนที่ว่าโกงเก่งโกงเจ๋ง ต้องหลบไป เมื่อมาเจอ อบต.บ้านใหม่ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา งบน้อยครับไม่มากรวมเงินเดือนเงินอุดหนุนก็แค่ปีละสิบกว่าล้านบาท หักเงินเดือนหักเงินส่วนอื่นๆ แล้วจะมีเงินมาพัฒนาจริงๆ ไม่เกินเจ็ดแปดล้าน ต่อปี
แต่ที่นี่ ปีเดียวโกงเจ็ดล้านหนึ่งแสนบาท ตรวจสอบ 110 ฎีกา โกง 109 ฎีกา อันที่ถูกต้องแค่ไม่เกินหกหมื่นบาท ตะลึงไหม ผลงานการโกงปีงบประมาณ 56 ปีเดียวเท่านั้น ก่อนผมมาเป็น นายก อบต. ล้างบางเรียบ พวกนี้จะต้องติดคุกคนละไม่น้อยกว่า 300 ปี ครองแชมป์ อบต. โกง อันดับหนึ่งของประเทศอย่างสง่าผ่าเผย (ในอดีต) นายกเก่า ร่วมมือกับปลัด อบต. ผอ.คลัง ผอ.โยธา ตำแหน่งหลักทั้งหมดบน อบต. ทำเอกสารเท็จเบิกเงิน แต่วันนี้ อบต.บ้านใหม่ แห่งเดียวกันนี้ ใช้เวลาเพียงสี่ปีพลิกจากต่ำสุดขึ้นมาแถวหน้าของอยุธยา และต้นๆ ของประเทศได้แบบไม่อายใคร”
เอกสารลับมากดังกล่าว มีข้อความระบุว่า อบต.บ้านใหม่ ได้ชำระหนี้ จำนวน 110 รายการด้วยเช็คสั่งจ่ายระบุชื่อของผู้รับเงินหรือให้ใช้เงินแก่ผู้ถือ (ระบุเป็นชื่อเจ้าหน้าที่ใน อบต.บ้านใหม่ในขณะนั้น 2 ราย) เป็นผู้เขียนเช็คและลงลายมือชื่อในเช็คสั่งจ่าย โดยจ่ายจากบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารกรุงไทย จำนวนเช็ค 110 ฉบับ จำนวนเงิน 7,177,583.58 บาท โดยแบ่งเป็น 4 กรณี ดังนี้
- ชื่อผู้รับเงินตามต้นขั้วเช็คตรงกับชื่อผู้รับเงินตามปลายขั้วเช็ค และตรงกับชื่อที่ผู้นำเช็คไปรับเงินที่ธนาคาร จำนวน 1 ฉบับ จำนวนเงิน 59,728.68 บาท
- ชื่อผู้รับเงินตามต้นขั้วเช็คและปลายต้นขั้วเช็คระบุชื่อผู้รับจ้างหรือผู้ขายตรงกัน แต่ผู้ที่นำเช็คไปรับเงินที่ธนาคารไม่ใช่ผู้รับจ้างหรือผู้ขาย ซึ่งผู้ที่ไปรับเงินตามเช็คดังกล่าวคือเจ้าหน้าที่ของ อบต.บ้านใหม่ จำนวน 52 ฉบับ จำนวนเงิน 2,990,962.75 บาท
- ชื่อผู้รับเงินตามต้นขั้วเช็คระบุชื่อผู้รับจ้างหรือผู้ขาย แต่ปลายต้นขั้วเช็คและผู้รับเงินหลังเช็คระบุชื่อของเจ้าหน้าที่อบต.บ้านใหม่ จำนวน 46 ฉบับ จำนวนเงิน 3,432,612.15 บาท
- ชื่อผู้รับเงินตามต้นขั้วเช็คไม่ตรงกับชื่อผู้รับเงินตามปลายต้นขั้วเช็ค และชื่อผู้รับเงินหลังเช็คไม่ตรงกับทางต้นขั้วเช็คและปลายต้นขั้วเช็ค จำนวน 11 ฉบับ จำนวนเงิน 694,280.00 บาท
ทั้งนี้ เห็นได้ว่าเช็คจำนวน 110 ฉบับที่ อบต.บ้านใหม่ ได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้ มีเพียงฉบับเดียวที่ระบุชื่อผู้ขายเป็นผู้รับเงินตามต้นขั้วเช็คตรงกับชื่อผู้รับเงินตามปลายต้นขั้วเช็ค และผู้ที่นำเช็คไปรับเงินที่ธนาคารคือผู้ขายตามที่เช็คระบุชื่อ สำหรับเช็คจำนวน 109 ฉบับ ผู้ที่นำเช็คไปรับเงินที่ธนาคารจะเป็นเจ้าหน้าที่ของ อบต. บ้านใหม่ โดยบุคคลที่ถูกระบุชื่อเป็นผู้รับจ้าง ผู้ขาย ไม่ได้เป็นผู้นำเช็คไปรับเงินสดที่ธนาคารแต่อย่างใด
โดยมีข้อพิจารณาดังนี้ คือ การเบิกจ่ายเงินของ อบต.บ้านใหม่ จำนวน 110 รายการ มีมูลหนี้ที่ถูกต้องแท้จริงหรือไม่ พิจารณาจากคำให้การของบุคคลที่ถูกระบุชื่อเป็นผู้รับจ้าง ผู้ขาย จำนวน 12 คน ที่ให้การปฏิเสธว่าไม่เคยเข้ามาเป็นผู้รับจ้าง ผู้ขายกับ อบต.บ้านใหม่ และเอกสารประกอบการเบิกจ่ายในช่องลายมือชื่อ รับจ้าง ผู้ขาย เป็นลายมือชื่อปลอม รวมถึงใบเสร็จรับเงินไม่ใช่เป็นเอกสารที่ออกโดยผู้รับจ้างหรือผู้ขาย
ดังจะเห็นว่าคำให้การของบุคคลดังกล่าว ประกอบเอกสารประกอบการเบิกจ่ายมีน้ำหนักเพียงพอที่รับฟังได้ว่า บุคคลที่ถูกระบุชื่อเป็นผู้รับจ้างผู้ขายจำนวน 12 คน ไม่ได้เข้ามาเป็นผู้รับจ้างหรือผู้ขายกับ อบต.บ้านใหม่ ส่งผลให้รายการจัดซื้อจัดจ้างจำนวน 67 รายการ รวมเป็นจำนวนเงิน 4,414,785.00 บาท ไม่มีมูลหนี้ที่แท้จริง เอกสารประกอบการเบิกจ่ายที่เกี่ยวข้องกับผู้รับจ้าง ผู้ขาย จึงเป็นเอกสารปลอม ซึ่งเป็นการกระทำอันมีเจตนาเดียวในการแสวงประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น