วันที่ 17 กรกฎาคม 2563 เพจประชาสัมพันธ์ เทศบาลนครนครราชสีมา เผยแพร่ข้อความ “ประกาศเทศบาลนครนครราชสีมา ระบุว่า เทศบาลฯ ได้ดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด บริเวณซอยท้าวสุระ 15 และบ่อบำบัดน้ำเสียหัวทะเล เนื่องจากมีคนลักลอบนำขนะไปทิ้งในที่ห้ามทิ้งจำนวนมาก และจะนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมืองพ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทั้งนี้หากพบเห็นการกระทำความผิดแจ้งสายด่วน 1132 เทศบาลนครราชสีมา”
นอกจากนี้ยังได้โพสต์ภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพคนที่นำขยะใส่รถกระบะลักลอบมาทิ้งริมถนน เพื่อยืนยันว่ามีกล้องวงจรปิดในบริเวณดังกล่าวจริง
ด้านนายสุรวุฒิ เชิดชัย นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา เปิดเผยกับข่าวช่องวันว่า ปัญหาขยะล้นเมือง เป็นปัญหาเร่งด่วนที่เขตชุมชนเมืองขนาดใหญ่ อย่างเช่นเทศบาลนครนครราชสีมา ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เนื่องจากปัจจุบันพบว่า ชุนเมืองมีการขยายตัว และจำนวนประชากรเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในจำนวนนี้รวมไปถึงประชากรแฝงด้วย ทำให้ปริมาณการทิ้งขยะเพิ่มขึ้นเป็นตามตัว เทศบาลนครฯ จึงต้องบริหารจัดการจำกัดขยะให้เบ็ดเสร็จและเกิดประสิทธิภาพ แต่ต้องยอมรับว่า ประชาชนหลายพื้นที่ในเขตดูแลที่ละเลยไม่ใส่ใจเรื่องการจำกัดขยะตั้งแต่ต้นทาง อีกทั้งมีการทิ้งขยะเกลื่อนกลาดไปทั่วเมือง เห็นได้จากปริมาณกองขยะที่พากันมาเททิ้งไว้ตามที่สาธารณะหรือที่รกร้าง ซึ่งคนมักม่ายและเห็นแก่ตัวนำขยะในครัวเรือนมาโยนทิ้งไว้ ไม่ได้ใส่ใจกับปัญหามลพิษหรือปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดตามมา
เทศบาลนครนครราชสีมา จึงต้องประกาศออกกฎเหล็ก ห้ามทิ้งขยะในแต่ละจุดที่อยู่ในเขตดูแล พร้อมกับติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกภาพการกระทำผิดของบุคคลที่ฝ่าฝืนมาทิ้งขยะที่สาธารณะ อย่างเช่นที่ บริเวณซอยท้าวสุระ 15 บ่อบำบัดน้ำเสียหัวทะเล ซึ่งมักจะมีผู้ลักลอบนำขยะไปทิ้งในที่ห้ามทิ้งจำนวนมาก