นายสันติธร ยิ้มละมัย รองอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ออกหนังสือแจ้ง เรื่อง ซักซ้อมแนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานทั่วไปเกี่ยวกับการประเมินผลงานข้าราชการหรือพนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษาองค์การบริหารส่วนจังหวัด/เทศบาล/องค์การบริหารส่วนตำบล ตำแหน่งครู เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น พ.ศ.2561 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2562 โดยระบุว่า เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการหรือพนักงานครูฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนหรือจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เน้นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดขึ้นกับเด็ก ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาผู้เรียน และเพื่อแสดงให้เห็นถึงผลการทำงานที่ประจักษ์ มีเอกสารประกอบการประเมินเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะที่เป็นหลักฐานและสามารถตรวจสอบได้ จึงแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดให้
กรณีผู้ขอรับการประเมินปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่โรงเรียน ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาเป็นผู้ประเมินผลงานจากการปฏิบัติหน้าที่ทุกปีการศึกษา โดยผู้ขอรับการประเมินต้องเสนอแผนการจัดการเรียนการสอน ตารางสอน และเอกสารที่เกี่ยวข้องต่อผู้อำนวยการฯ ก่อนเริ่มปีการศึกษา ส่วนกรณีศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ให้ อปท. ที่ดูแลแต่งตั้งข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษาในจังหวัดนั้น ที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมเป็นผู้ประเมินผลงาน โดยผู้ขอรับการประเมินต้องเสนอแผนการเรียนการสอนต่อผู้อำนวยการกองการศึกษาหรือหัวหน้าส่วนราชการที่สังกัด นอกจากนี้ ยังรวมถึงการกำหนดวิธีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและกลั่นกรองข้อมูลด้วย
ทั้งนี้ ได้พิจารณากำหนดคุณสมบัติข้าราชการหรือพนักงานครู อปท. ที่ขอมีหรือเลื่อนวิทยาฐานะใน 4 ตำแหน่งไว้ด้วย ดังนี้
ครูชำนาญการ
- ต้องดำรงตำแหน่งครูมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า
- มีชั่วโมงการปฏิบัติงานในตำแหน่งครูในช่วงระยะเวลาย้อยหลัง 5 ปี นับถึงวันยื่นคำขอในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 800 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมง ทั้งนี้ ต้องมีชั่วโมงสอนขั้นต่ำตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก. อบต. กำหนดแนบท้ายมาตรฐานทั่วไปด้วย (ระดับปฐมวัยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง/สัปดาห์, ระดับประถมศึกษาขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง/สัปดาห์)
- มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไม่เคยถูกลงโทษทางวินัยหรือจรรยาบรรณวิชาชีพ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี
- ผ่านการพัฒนาตามมาตรฐานทั่วไป (ตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก. อบต. กำหนด) ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี
- มีผลงานที่เกิดจากการปฏิบัติหน้าที่ สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปีการศึกษาติดต่อกันนับถึงวันสิ้นปีการศึกษา ก่อนวันที่ยื่นคำขอ และผ่านเกณฑ์การตัดสินตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก. อบต. กำหนด
ครูชำนาญการพิเศษ
- ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า
*ข้อ 2, 3, 4, 5 เช่นเดียวกับวิทยฐานะครูชำนาญการ
ครูเชี่ยวชาญ
- ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า
- มีชั่วโมงการปฏิบัติงานในตำแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาย้อยหลัง 5 ปี นับถึงยื่นคำขอในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมง ทั้งนี้ ต้องมีชั่วโมงสอนขั้นต่ำตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก. อบต. กำหนดแนบท้ายมาตรฐานทั่วไปด้วย (ระดับปฐมวัยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง/สัปดาห์, ระดับประถมศึกษาขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง/สัปดาห์) สำหรับผลงานทางวิชาการในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี ผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะนี้จะต้องมีชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอผลงานทางวิชาการนั้น
*ข้อ 3, 4, 5 เช่นเดียวกับวิทยฐานะครูชำนาญการ
ครูเชี่ยวชาญพิเศษ
- ต้องดำรงตำแหน่งครู ที่มีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี นับถึงวันที่ยื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอื่นที่เทียบเท่า
- มีชั่วโมงการปฏิบัติงานในตำแหน่งครู ในช่วงระยะเวลาย้อยหลัง 5 ปี นับถึงยื่นคำขอในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 900 ชั่วโมง โดยในชั่วโมงปฏิบัติงานต้องมีชั่วโมงการมีส่วนร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 50 ชั่วโมง ทั้งนี้ ต้องมีชั่วโมงสอนขั้นต่ำตามที่ ก.จ. ก.ท. และ ก. อบต. กำหนดแนบท้ายมาตรฐานทั่วไปด้วย (ระดับปฐมวัยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง/สัปดาห์, ระดับประถมศึกษาขึ้นไป ไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมง/สัปดาห์) สำหรับผลงานทางวิชาการในช่วงระยะเวลาย้อนหลัง 5 ปี ผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะนี้จะต้องมีชั่วโมงสอนในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรียนรู้ที่เสนอผลงานทางวิชาการนั้น
*ข้อ 3, 4, 5 เช่นเดียวกับวิทยฐานะครูชำนาญการ