อบต.ช่องสาริกา จ.ลพบุรี จับมือโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ จัดกิจกรรม “เดิน – วิ่ง ชมดอกกัลปพฤกษ์ PINK Flowers Running 2024” ช่องสาริกามินิมาราธอน ครั้งที่ 1 ชมซากุระเมืองไทยเกือบ 4 กม. นำรายได้จัดซื้ออุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีมากยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2567 ณ วัดถ้ำบ่อทอง ตำบลช่องสาริกา อำเภอพัฒนานิคม องค์การบริหารส่วนตำบลช่องสาริกา (อบต.) นำโดย ดร. พัลลภ ภัทรดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลช่องสาริกา เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องได้บูรณาการ ร่วมกับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรม “เดิน – วิ่ง ชมดอกกัลปพฤกษ์ PINK Flowers Running 2024” ช่องสาริกามินิมาราธอน ครั้งที่ 1 โดยมีนายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายอำเภอพัฒนานิคม เจ้าคณะอำเภอพัฒนานิคม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ และผู้บริหารบริษัทเบทาโกร จำกัด(มหาชน) บริษัทเฌอร่า จำกัด (มหาชน) บริษัทซิโนสยามไบโอเทคนิค จำกัด บริษัทสุธากัญจน์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จำกัด (มหาชน) และประชาชนประมาณ จำนวน 1,200 คน เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้ รายได้จากกิจกรรมหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วจะถูกมอบเป็นสาธารณะกุศล สำหรับจัดหาอุปกรณ์ช่วยเหลือคนพิการ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาส ที่จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายให้เหมาะสมต่อการทำกิจวัตรประจำวัน เพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังเป็นการดำเนินงาน เพื่อส่งเสริมและสร้างความสนใจให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในสถานที่สำคัญของตำบลช่องสาริกานั่นคือ ถนนเส้นทางชมดอกกัลปพฤกษ์แห่งนี้ สำหรับถนนเส้นทางวัดถ้ำบ่อทองในช่วงเดือนมีนาคม ถึงประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกปีจะเป็นเส้นทางที่มีดอกกัลปพฤกษ์บานสะพรั่งอยู่ทั้ง 2 ฝั่งถนนอย่างสวยงาม ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร จึงอยากให้นักท่องเที่ยวและนักวิ่งทุกคนได้เก็บภาพความประทับใจ และภาพความทรงจำที่สวยงามในการมาเยือนช่องสาริกาให้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งความสวยงามแบบนี้ หนึ่งปีจะมีเพียงครั้งเดียว
สำหรับต้นกัลปพฤกษ์ที่เติบโตอยู่ริมถนนเส้นหน้าวัดบ่อทองแห่งนี้ เริ่มต้นจากที่ชาวชุมชน อบต.ช่องสาริกา และภาคเอกชน เป็นความร่วมมือกันวางแผนล่วงหน้าในการปลูกต้นกัลปพฤกษ์ เป็นการวาดฝันไว้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งต้องใช้เวลาถึง 7 ปี สุดท้ายแล้ว ความฝันของชาวบ้านเป็นจริงอย่างที่เห็น รู้สึกดีใจที่ปีนี้มีประชาชนเดินทางมเที่ยวกันมากทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้เพิ่ม ซึ่งในอานาคตจะมีการปลูกต้นกัลปพฤกษ์เพิ่มขึ้นอีก และจัดสถานที่จอดรถ เพื่อความปอดภัยเนื่องจากเป็นถนน 2 เลน บางวันต้องขอให้รถพ่วงโรงงานเลี่ยงไปวิ่งเส้นทางอื่นแทน
ต้นกัลปพฤกษ์ ชื่อวิทยาศาสตร์ เป็นพรรณไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ประมาณ 5 – 15 เมตร มีความสูงโดยเฉลี่ยประมาณ 12 เมตร เรือนยอดแผ่กว้าง แต่ไม่หนาแน่นทึบ แตกกิ่งต่ำ และทอดกิ่งยาวขึ้นสู่ด้านบน สามารถขึ้นได้ในพื้นที่ที่ดินไม่ค่อยสมบูรณ์ ชอบความชื้นปานกลาง แสงแดดแบบเต็มวัน พรรณไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศพม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และในประเทศไทย
สำหรับดอกกัลปพฤกษ์ ออกดอกเป็นช่อกระจายตามกิ่งพร้อมกับแตกใบอ่อน ช่อดอก ยาวได้ประมาณ 5 – 10 เซนติเมตร มีขนสีเหลืองขึ้นปกคลุม ช่อดอกจะออกแน่นเป็นกลุ่มตลอดกิ่ง เมื่อเริ่มบานดอกจะเป็นสีชมพู แล้วจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูเรื่อ ๆ จนถึงสีขาวเมื่อใกล้ร่วงโรย ประโยชน์ของกัลปพฤกษ์ ในสมัยก่อนจะใช้เนื้อในฝักกินกับหมาก ต้นกัลปพฤกษ์ จัดเป็นไม้มงคลที่มีรูปทรงสวยงาม ให้ดอกสวย ออกดอกดกเต็มต้น มีสีชมพูอ่อนสดใสดูงดงามเหมือนดอกเชอร์รี่ แต่ชาวบ้านที่นี่จะเรียกว่า “ซากุระ เมืองไทย”
อีกทั้ง ดอกกัลปพฤกษ์ก็มีทั้งสีชมพูและสีขาว จึงรวบรวบความงดงามของทั้งดอกเชอร์รี่ และดอกแอปเปิลไว้ในคราวเดียวกัน ในปัจจุบันนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับกันทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่จะปลูกไว้ประดับอาคารบ้านเรือน ปลูกในสวนสาธารณะ และริมถนนทั่วไป และสามารถทนดินและอากาศแห้งได้เป็นอย่างดี สำหรับความเชื่อของคนไทยในอดีตเชื่อกันว่า ต้นกัลปพฤกษ์มีอยู่ในแดนสวรรค์ เปรียบเหมือนแก้วสารพัดนึก หากปรารถนาสิ่งใดจะไปขอเอาจากต้นไม้นี้ อีกทั้งต้นกัลปพฤกษ์ ยังถือเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ มีโชคมีชัยอีกด้วย