close

หน้าแรก

menu
search

สภาฯ คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ดินฯ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหน้าบ้านประชาชน

schedule
share

แชร์

เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาวาระสำคัญ คือ การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. เสนอโดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ความว่า หนึ่งคำสำคัญที่แสดงสาระสำคัญของร่างกฎหมายนี้ ไม่ใช่คำว่าที่ดิน แต่คือคำว่า “กระจายอำนาจ” การเพิ่มอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปแก้ไขปัญหาหน้าบ้านให้ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเพื่อน สส. โดยเฉพาะ สส.เขต ได้ส่งข้อหารือมายังที่ประชุมสภาฯ หลายเรื่องเป็นความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องถนนหนทาง ทางเท้า ไฟส่องสว่าง การจัดการขยะ การระบายน้ำ ที่ท้องถิ่นอย่างองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล หรือองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เข้าไปแก้ไขปัญหาให้ไม่ได้ เพราะเป็นปัญหาที่ตั้งอยู่บนที่ดินเอกชนหรือที่ดินของหน่วยงานอื่น ไม่ใช่ที่ดินสาธารณะ ทำให้ท้องถิ่นเกรงว่าถ้าเข้าไปจัดการจะถูกฟ้องร้องในภายหลัง

ณัฐพงษ์ กล่าวต่อไปว่า ถ้าค้นในระบบของสภาผู้แทนฯ เรามีข้อหารือเกี่ยวกับปัญหาหน้าบ้านเหล่านี้ค้างอยู่เป็นร้อยเป็นพันเรื่อง ทุกวันนี้ยังแก้ไม่ได้ เพราะท้องถิ่นไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการ จึงต้องตั้งคำถามต่อ สส.ทุกคน คิดว่าหน่วยงานที่ควรเข้าไปแก้ไขปัญหาเหล่านี้ควรเป็นราชการส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค หรือท้องถิ่นที่อยู่ใกล้ชิดประชาชน และประชาชนเป็นคนเลือกมากับมือกันแน่

สำหรับกฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ไขปัญหาหน้าบ้านที่ประชาชนพบเจออยู่ทุกวัน จึงขอเรียกร้องให้ สส. โดยเฉพาะจากฝั่งรัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญ ไม่อยากให้ฟังความเห็นจากมติวิปรัฐบาลที่ออกมาให้คว่ำร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยอาศัยความเห็นจากกรมที่ดินเพียงอย่างเดียว เช่นที่พรรคประชาชนเคยโหวตสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฯ ของ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคเพื่อไทย ที่แก้ปัญหาให้ประชาชนในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ทั้งที่กรมที่ดินมีความเห็นคัดค้านเช่นกัน ให้ความเห็นคล้ายๆ กับร่างกฎหมายฉบับนี้ คือการเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่น อาจทำให้เกิดปัญหาอำนาจทับซ้อนกับหน่วยงานอื่นที่จัดการโครงการหมู่บ้านจัดสรรอยู่แล้ว

ด้านนางสาวลินธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ร่วมอภิปรายแสดงความเห็นด้วยต่อร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าว โดย นางสาวลิณธิภรณ์ แสดงเหตุผลหลัก 2 ข้อที่ไม่เห็นด้วยว่าในประการแรก ร่างดังกล่าวนี้ ไม่มีส่วนใดที่กำหนดกรอบระยะเวลาและเงื่อนไขที่จำเป็นต่อการทำสาธารณะประโยชน์อย่างแท้จริงเลย ซึ่งจะกลายเป็นกฎหมายที่เปิดช่องอันตราย อันอาจกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน

เพราะนอกไปจากร่างพระราชบัญญัติที่ดินดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีประมวลกฎหมายอาญา ที่เชื่อว่าเพื่อนสมาชิกผู้เสนอกฎหมายยังคาดไม่ถึงนั่นก็คือ… ในประเด็นที่ร่างกฎหมายฉบับนี้บอกว่า ประชาชนทั่วไปสามารถร้องขอองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้เปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ดังกล่าวได้ หากประชาชนทั่วไปใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยสงบต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 3 ปี ติดต่อกัน และเจ้าของที่ดินมิได้หวงกั้น

แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการหวงกันจากเจ้าของที่ดิน การกำหนดลักษณะเช่นนี้ อาจส่งเสริมให้เกิดการบุกรุกที่ดินหรือข้อพิพาทโดยไม่จำเป็น ซึ่งถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ฐานบุกรุก ทำให้เกิดข้อพิพาทที่ไม่จำเป็นระหว่างประชาชน

ประการสอง คือ การให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สาธารณะประโยชน์ให้ประชาชนทั่วไปสามารถใช้สอยร่วมกันเป็นการชั่วคราวได้นั้น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งทั่วประเทศ มีภาระงานที่มากอยู่แล้ว จะต้องรับภาระเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล จากการดูแลที่ดิน โดยต้องแปลงสภาพพื้นที่ และต้องมีงบประมาณสำหรับบำรุงรักษาในระยะยาว

อีกทั้งในกรณีที่ หากเกิดคดีความระหว่างเจ้าของที่ดินและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หากศาลตัดสินให้เจ้าของที่ดินชนะ สิ่งที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ลงทุนไป ทั้งงบประมาณ และทรัพยากร จะสูญเปล่า หรือเลวร้ายกว่านั้น อาจเป็นการเปิดช่องให้เกิดการทุจริต และการเอื้อประโยชน์ในบางกรณีของเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอีกด้วย และแน่นอนสุดท้าย ผู้ที่จะเสียมากกว่าได้ ก็คือ พี่น้องประชาชนคนไทย และวันนี้ จะกลายเป็นว่าความมั่นคงปลอดภัยในกรรมสิทธิ์ที่ดินกำลังจะถูกคุกคามโดยร่างกฎหมายนี้

ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายว่ากฎหมายทำนองนี้ ผ่ายค้านสมัยพรรคก้าวไกลได้เคยเสนอและสภาแห่งนี้ก็ไม่รับหลักการและคว่ำไปซึ่งก็เป็นสิทธิ์ ซึ่งคราวนี้พรรคประชาชนก็ได้เสนอมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่า เรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นเรื่องที่รัฐธรรมนูญกำหนดรับรองสิทธิ์เอาไว้ การที่จะไปรุกล้ำบุกรุก หรือละเมิดกรรมสิทธิ์เขาเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ สส.จึงมีสิทธิปรึกษาหารือ มีสิทธิเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย

ในขณะเดียวกัน เราสงสัยว่า การออกกฎหมายนี้ เป็นการส่งเสริมให้มีการบุกรุกที่ดินของบุคคลอื่นหรือไม่ และพรรคเพื่อไทยก็ถกเถียงกันว่า หากบุกรุกที่ดิน แล้วมีความผิดอาญาขึ้นมา ซึ่งอาจทำให้เกิดคดีความมากขึ้นมากหรือไม่ และ สส.เราก็ยังถกเถียงแสดงความเห็นกันว่า หากเรื่องไปถึงขนาดนั้น ก็อาจเกิดผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการถือครองที่ดินของประชาชนหรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นผลจากกฎหมายดังกล่าว จึงขอให้สภาแห่งนี้ได้พิจารณากฎหมายดังกล่าวด้วยความละเอียดรอบคอบถี่ถ้วนมากที่สุด

ทั้งนี้ ขณะที่หลายฝ่ายกังวลว่าร่างกฎหมายนี้จะกระทบกรรมสิทธิ์ที่ดิน ณัฐพงษ์ในฐานะผู้เสนอร่าง ได้อธิบายว่ากฎหมายนี้รับรองสิทธิของเจ้าของที่ดินไว้ 3 ประการสำคัญ

 1) คุ้มครองกรรมสิทธิ์ โดยรับประกันว่าการที่ท้องถิ่นเข้าไปปรับปรุงสภาพที่ดินเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน จะเป็นการแก้ไขชั่วคราวที่ไม่กระทบกรรมสิทธิ์เจ้าของที่ดินเดิม

 2) คุ้มครองการไม่บุกรุก โดยรับประกันให้การที่ท้องถิ่นจะสามารถเข้าไปดำเนินการใดๆ ได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าของที่ดินมิได้หวงกัน

 3) คุ้มครองการไม่ทำให้เสียทรัพย์ โดยรับประกันให้การดำเนินการต่างๆ จะต้องไม่ทำให้ที่ดินนั้น ๆ เสียหาย วิธีการในการปรับปรุงสภาพที่ดินให้เป็นไปตามกฎหมายลำดับรองที่อธิบดีกรมที่ดินเป็นผู้กำหนด

ดังนั้น ขอให้ สส.ทุกท่านโหวตด้วยเจตจำนง ด้วยจิตสำนึกของการเป็นผู้แทนราษฎร ที่รับฟังปัญหาจากประชาชน ประชาชนมีปัญหาอะไรนึกถึงท่านก่อนเป็นคนแรก ไม่ได้นึกถึงอธิบดีหรือรัฐมนตรี ขอให้โหวตรับหลักการร่างฉบับนี้แล้วไปถกเถียงรายละเอียดในชั้นกรรมาธิการ เพื่อเพิ่มอำนาจให้ท้องถิ่นในการจัดการปัญหาหน้าบ้านให้กับประชาชน

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการอภิปรายของ สส. ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล จากนั้นเข้าสู่การลงมติของประชุมสภาฯ ผลปรากฏว่า สภาฯ มีมติไม่รับหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน ด้วยคะแนนรับหลักการ 143 เสียง ไม่รับหลักการ 243 เสียง งดออกเสียง 0 ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง ส่งผลให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ตกไป

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

เปิด! ศูนย์การแพทย์เทศบาลเมืองลาดสวาย พร้อมดูแลสุขภาพประชาชนถ้วนหน้า ‘หน่อง-ปลื้มจิตร์’ ร่วมเผยเทคนิคดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และการฟื้นฟูร่างกาย
ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมือ…

schedule
“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

ความสำคัญของ อบจ. ผู้มีอำนาจสุดแกร่งและทรงอิทธิพล ด้วยบ…

schedule
“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผอ.สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย ส…

schedule

นิตยสารผู้นำท้องถิ่นออนไลน์ รวมข่าวสารอัพเดทของคนท้องถิ่น

ติดต่อเรา

อีเมล : [email protected]