วันที่ 27 มีนาคม 2563 นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เปิดเผยผลการประชุมของ คณะกรรมการจัดการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2563 มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้บริการสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในสถานการณ์ภัยแล้งปี 2563 และการแพร่ระบาดของ COVID-19 รวมถึงการช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อยในช่วงเปิดภาคเรียน
โดยให้โรงรับจำนำในสังกัด อปท. ทุกแห่ง ดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชน ด้วยการผ่อนผันหรือยืดระยะเวลาในการชำระหนี้แก่ผู้จำนำที่ได้มาจำนำในห้วงเดือนกุมภาพันธ์ – มิถุนายน 2563 ให้ขยายเวลาไถ่ถอนทรัพย์รับจำนำไปอีกเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนนับจากวันครบกำหนดระยะเวลาตามกฎหมาย (สี่เดือนสามสิบวัน)
ทั้งยังให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำ ในระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2563 ดังนี้ (1) เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.125 ต่อเดือน (2) เงินต้นเกินกว่า 5,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 ต่อเดือน
นอกจากนั้น อธิบดี สถ. ยังกล่าวเพิ่มเติมกรณีที่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มีหนังสือแจ้ง อปท. ทั่วประเทศว่า สามารถตั้งงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่รองรับผู้ป่วยที่อาจเพิ่มจำนวนสูงขึ้น สามารถจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือในการตรวจโรค เครื่องช่วยในการหายใจและอุปกรณ์อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินงานได้ รวมทั้งสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเป็นค่าป่วยการให้แก่ อปพร. ที่ทำหน้าที่คัดกรองกลุ่มเสี่ยงในชุมชน ไปจนถึงขอความร่วมมือ อปท. ดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางกลับสู่ภูมิลำเนาและมีภาวะว่างงาน ลงทะเบียนเพื่อการจ้างงานต่อไป
แต่ทั้งนี้ การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ของ อปท. ที่เกิดขึ้นในการป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ อปท. จะต้องได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้รับผิดชอบ หรือร่วมดำเนินการกับหน่วยงานอื่นในการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อ สำหรับกรณีอื่น อปท. สามารถพิจารณาให้การสนับสนุนในลักษณะเงินอุดหนุน แก่หน่วยงาน/ส่วนราชการที่ปฏิบัติงานป้องกัน-ควบคุม COVID-19 ได้อีกด้วย
ด้านการปรับปรุงสถานที่ราชการ เช่น โรงเรียน มหาวิทยาลัย หอประชุม ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หรือสถานที่ราชการอื่นๆ เพื่อใช้เป็นสถานที่ดำเนินการป้องกันและควบคุมโรค อปท. ก็สามารถตั้งงบประมาณในการปรับปรุงสถานที่ และจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ที่ใช้ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้
อธิบดี สถ. ย้ำว่า อาคารสถานที่ดังกล่าวต้องไม่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างหรือการตรวจรับงานหรือมีข้อพิพาท กรณีไม่สามารถใช้สถานที่ราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ อาจดำเนินการเช่าสถานที่เอกชน
ด้านมาตรการที่ออกมาก่อนหน้านี้ ได้แก่ กรณีผู้บริหารท้องถิ่นสั่งใช้ อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.)ในการค้นหา ติดตาม และคัดกรองว่ามีคนในหมู่บ้านที่เป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยง เข้ามาพักอาศัยในหมู่บ้าน/ชุมชน ใน อปท. รวมทั้งการเฝ้าระวังบุคคลเข้าออกหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อป้องกัน COVID-19 อปท. ยังสามารถเบิกค่าใช้จ่ายเป็นค่าป่วยการชดเชยการงานหรือเวลาที่เสียไปเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ให้แก่เจ้าหน้าที่ได้
ในส่วนของการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดของบุคลากรที่ปฏิบัติงาน ให้ อปท. จัดหาวัสดุเครื่องแต่งกายให้กับคนงานเก็บขนขยะมูลฝอย เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการสาธารณสุข เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัย หรือผู้ที่ปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น การพ่นยาฆ่าเชื้อ การทำความสะอาดตลาด เพื่อสวมใส่ในขณะปฏิบัติหน้าที่
สำหรับประชาชนที่ว่างงานกลับสู่ภูมิลำเนาจากผลกระทบของการใช้มาตรป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขอความร่วมมือจาก อปท. ทุกแห่ง ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีความประสงค์จะทำงานในพื้นที่มาขึ้นทะเบียน เพื่อท้องถิ่นจะได้ประสานกับผู้ประกอบการ ผู้รับจ้างในพื้นที่ ให้จ้างงานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน