มหาดไทยสั่งการทุกจังหวัดเตรียมพร้อมจัดกิจกรรมวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2562
พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการประชุมหารือการจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปีพุทธศักราช 2562
ที่ประชุมมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยจัดกิจกรรมเนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จ พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปีพุทธศักราช 2562 ในส่วนภูมิภาค
พลเอก อนุพงษ์ กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัดให้ดำเนินการ ดังนี้ กิจกรรมในระหว่างวันที่ 5 – 19 สิงหาคม 2562ให้ทุกจังหวัดประดับพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด พร้อมประดับธงชาติไทยร่วมกับธงตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 และธงอักษรพระนามาภิไธย ส.ก.
พร้อมเชิญชวนบริษัท ห้างร้าน และประชาชนดำเนินการดังกล่าวด้วย พร้อมทั้งให้ทุกจังหวัดจัดสถานที่สำหรับให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ บริเวณศาลากลางจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงสถานที่ราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทุกแห่งรวมทั้งประดับไฟบริเวณศาลากลางจังหวัดและสถานที่สำคัญของจังหวัดให้สวยงาม
โดยในวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2562 จะเริ่มตั้งแต่เวลา 07.15 น. พิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์และสามเณร จำนวน 88 รูป หรือจำนวนตามที่จังหวัดเห็นว่าเหมาะสม ต่อจากนั้นเวลา 09.00 น. พิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคลฯ เวลา 18.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะ และในเวลา 19.30 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล
นอกจากนั้น ในวันดังกล่าวแต่ละจังหวัดจะจัดกิจกรรมจิตอาสาพัฒนาลำน้ำ ลำคลอง จิตอาสาพัฒนาถนนสายหลัก และจิตอาสาพัฒนาสวนสาธารณะเพื่อถวายพระราชกุศล และจัดกิจกรรมสาธารณกุศลอื่น ๆ เช่น การพัฒนาอาชีพผู้ด้อยโอกาส การจัดบริการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ในพื้นที่ห่างไกล การเลี้ยงอาหารกลางวันผู้ด้อยโอกาส คนชรา หรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด รวมถึงจัดกิจกรรมดังกล่าวพร้อมกันในทุกอำเภอ อย่างสมพระเกียรติ
“เนื่องในโอกาสอันเป็นมงคลยิ่งนี้ กระทรวงมหาดไทยขอเชิญชวนประชาชนทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมกิจกรรมฯ ตามวัน เวลา และสถานที่ตามที่แต่ละจังหวัดกำหนด เพื่อน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแสดงความจงรักภักดีโดยพร้อมเพรียงกัน” พลเอก อนุพงษ์ กล่าว