วันที่ 4 ตุลาคม 2564 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เผยแพร่คุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ตามไทม์ไลน์การเปิดรับสมัครในวันที่ 11 – 15 ต.ค. 64
ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 49 และมาตรา 51 กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งและการยื่นหลักฐานเอกสารประกอบการสมัครรวมถึงค่าธรรมเนียมการสมัครไว้ว่า ผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด ผู้สมัคร ส.อบต. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และผู้สมัครนายกอบต. ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง รวมทั้งต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขต อบต.ที่สมัครฯ เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปี นอกจากนี้ผู้สมัครนายก อบต.ต้องจบการศึกษาไม่ต่ำกว่าม.ปลาย หรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา
สำหรับหลักฐานและเอกสารประกอบการยื่นในสมัคร ประกอบด้วย ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือรูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ใบรับรองแพทย์ หลักฐานการศึกษา (เฉพาะผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบต.) หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี ตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2 รวมถึงหลักฐานอื่นที่ผู้สมัครนำมาแสดงว่าคนเป็นผู้มีคุณสมบัติครับถ้วน และไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 และ พระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537
โดยในการสมัครรับเลือกตั้ง ส.อบต. มีค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และนายกอบต.มีค่าธรรมเนียม 2,500 บาท ทั้งนี้ ผู้สมัครที่รู้ว่าตัวเองขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร แล้วมาสมัครมีโทษตามมาตรา 120 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี