กกต.ยืนยัน ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น ช่วยหาเสียงเลือกตั้งให้กับพรรคการเมืองและผู้สมัครส.ส.ได้ นอกเวลาราชการ แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบตามพ.ร.บ.เลือกตั้ง
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้เผยแพร่หนังสือตอบข้อหารือแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ปี 2566 กรณีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ขอสอบถามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ส. 2 ประเด็น เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้ ประเด็นแรก ผู้บริหารท้องถิ่น ,รองผู้บริหารท้องถิ่น ,เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น,ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น,สมาชิกสภาท้องถิ่น,เลขานุการสภาท้องถิ่น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 78 วรรคหนึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 ซึ่งห้ามมิให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายในการช่วยเหลือผู้สมัครหรือพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่
สำนักงานกกต. พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดหลักเกณฑ์ “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ไว้ ดังนี้ 1. ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย 2. มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ 3. อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ 4. มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทน ตามกฎหมาย ดังนั้นหากบุคคลตามข้อหารือ เข้าลักษณะตามหลักเกณฑ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 5/2563 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 บุคคลนั้นอาจเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 78 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 ได้
ประเด็นที่สอง ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น เลขานุการสภาท้องถิ่น สามารถช่วยเหลือผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งโดยส่วนตัว มิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เช่น ไม่ใช้เวลาราชการ ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ (บุคลากร งบประมาณ เครื่องจักรหรือวัสดุอุปกรณ์อื่นใดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ตามมาตรา 78 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ. 2561 ได้หรือไม่
สืบเนื่องจากประเด็นแรก ผู้บริหารท้องถิ่น,รองผู้บริหารท้องถิ่น ,เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น,ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และ เลขานุการสภาท้องถิ่น เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐตามมาตรา 78 วรรคหนึ่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561ซึ่งห้ามมิให้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายในการช่วยเหลือผู้สมัครหรือพรรคการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่
สำนักงาน กกต.พิจารณาแล้วมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าว ศาลรัฐธรรมนูญได้กำหนดหลักเกณฑ์ “เจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ” ไว้ ดังนี้1.ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งตามกฎหมาย2.มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการหรือหน้าที่ปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมายและปฏิบัติงานประจำ3.อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐ4.มีเงินเดือน ค่าจ้าง หรือค่าตอบแทน ตามกฎหมายดังนั้น หากบุคคลตามข้อหารือ เข้าลักษณะตามหลักเกณฑ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 5/2563 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2543 บุคคลนั้นอาจเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามมาตรา 78 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ได้
สำหรับประเด็นที่สอง ผู้บริหารท้องถิ่น ,รองผู้บริหารท้องถิ่น,เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น,ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น และเลขานุการสภาท้องถิ่นสามารถช่วยเหลือผู้สมัครหรือพรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งโดยส่วนตัว มิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เช่น ไม่ใช้เวลาราชการ ไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐ (บุคลากร งบประมาณ เครื่องจักรหรือวัสดุอุปกรณ์อื่นใดขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น) ตามมาตรา 78 วรรคหนึ่ง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 ได้หรือไม่
สำนักงาน กกต.พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า กรณีดังกล่าวข้างต้น ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น เลขานุการสภาท้องถิ่น สามารถช่วยเหลือผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หาเสียงเลือกตั้งเป็นการส่วนตัว และนอกเหนือเวลาราชการได้แต่ต้องระมัดระวังมิให้ขัด พ.ร.บ. ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และต้องเป็นไปตามกฎหมายรวมทั้งระเบียบ ที่เกี่ยวข้องเฉพาะตำแหน่งดังกล่าว