สนามเลือกตั้งท้องถิ่นร้อนระอุอีกหนึ่งสนาม คงหนีไม่พ้น ศึกเลือกตั้งนายกอบจ.เชียงใหม่ ที่มีผู้สมัครนายกอบจ.6 คน เซียนการเมือง ให้จับตาการขับเคี่ยวช่วงชิงคะแนนระหว่าง “เสี่ยโต๊ะ”บุญเลิศ บูรณุปกรณ์ แชมป์เก่า อดีตนายกอบจ.2 สมัย กลุ่มเชียงใหม่คุณธรรม กับ “ทนายก๊อง” พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้ที่ได้รับแรงหนุนจาก 3 อดีตนายกรัฐมนตรี
ผู้ท้าชิง ‘ทนายก๊อง’ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ชื่อเดิม ชูชัย) ผู้สมัครหมายเลข 1 ในนามพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ว.เชียงใหม่ ประธานสโมสรฟุตบอลเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ที่ได้เตรียมตัวสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. ตั้งแต่ปี 2557 โดยมี ‘เจ๊แดง’ เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เป็นผู้ชักนำให้ทนายก้องเข้าสู่การเมือง การลงเลือกตั้งครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ที่ล่าสุด นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรคได้ลงพื้นที่ช่วยทนายก๊องหาเสียง บริเวณถนนคนเดินท่าแพ จ.เชียงใหม่ พร้อมรับฟังปัญหาด้านปากท้องและสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งทนายก๊อง กล่าวว่า พร้อมผลักดันนโยบายเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย และขยายโอกาสให้กับชาวเชียงใหม่ โดยจะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวด้วยนโยบาย 1 อำเภอ 1 แลนด์มาร์ค เพื่อสร้างรายได้ พัฒนาแหล่งน้ำ พัฒนาระบบสาธารณสุข การเดินทางสาธารณะ และการขนส่งในจังหวัด พร้อมยืนยันจะบริหารงบประมาณท้องถิ่นกว่า 2,000 ล้านบาท ให้มีประสิทธิภาพ
ทัพใหญ่เพื่อไทย นำโดย สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมแกนนำพรรค ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงให้ทนายก๊องแบบเต็มกำลัง ร้องอื้อหือกันทั้งประเทศเมื่อแบ็คอัพใหญ่อย่าง ‘ทักษิณ ชินวัตร’ อดีตนายกรัฐมนตรีเอาตัวเข้าแลกทุ่มหมดตัวโผล่มาเชียร์ผ่านเฟซบุ๊ก Thaksin Shinawatra วันที่ 3 ธันวาคม 2563 มีคนกดถูกใจนับแสน และมีการแชร์ต่ออีกหมื่นกว่าครั้ง โดยใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า “…ผมจะได้ใช้สมอง ซึ่งยังใช้การได้ดีอยู่ร่วมกับน้องสาวแนะนำการแก้ปัญหาของชาวเชียงใหม่ผ่านก้องไป ผมขอฝากตวยเน่อ ถ้ายัง บ่าลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ (ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ขอได้โปรดเลือก พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก๊อง) เบอร์ 1 ฮื้อกำเน่อ กึ๊ดเติงหาเจียงใหม่บ้านเฮาขนาดครับ”
ทนายก๊องเชื่อมั่นในฐานเสียงของพรรคที่เหนียวแน่นตั้งแต่ยุคของนายทักษิณ ชินวัตร ว่าจะชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ได้อย่างแน่นอน!!!
กล่าวถึงบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เบอร์ 2 ครั้งที่แล้ว ชนะคู่แข่งแบบไม่เห็นฝุ่นด้วยคะแนนกว่าสี่แสนคะแนน ทำให้บุญเลิศยังคงมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม
แต่ทว่า ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ทำให้บุญเลิศ ต้องออกแรงหนักกว่าเดิมแน่นอน
เดิมบุญเลิศ ชนะเลือกตั้งในนามกลุ่ม ”เพื่อไทยคุณธรรม” ซึ่งขณะนั้นยังคงเป็นเนื้อเดียวกับเจ๊แดง เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาวทักษิณ ชินวัตร ฐานกำลังหลักของพรรคเพื่อไทย โยงใยกับเสื้อแดง ซึ่งถือได้ว่ามีเชียงใหม่เป็นเมืองหลวง
เมื่อครั้งบุญเลิศ ถูกกล่าวหาเรื่องรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ถูกจับติดคุกมทบ.11 อยู่ 1 เดือน และมีคำสั่ง คสช.ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกอบจ.ชั่วคราว ครั้งนั้นไม่มีปฏิกิริยาการช่วยเหลือใดๆจากพรรคพวกที่คิดว่าเคียงข้างกันมาตลอด. จะด้วยแรงกดดันใดก็แล้วแต่ คาดว่าบุญเลิศคงต้องปรับตัวทางการเมือง แสดงตัวชัดเจนว่าอยู่ข้างฝ่ายไหนไม่ได้
คราวนี้มีเหตุให้บุญเลิศ ต้องทิ้งเพื่อไทยซึ่งรอยร้าวคงเกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว เมื่อบุญเลิศถูกฝั่งเพื่อไทยกล่าวหาว่าย้ายฝั่งมาอยู่ข้างพลังประชารัฐ ไม่ได้อยู่ฝั่งประชาธิปไตยอีกแล้ว ทั้งๆที่การเลือกตั้งส.ส.ครั้งที่ผ่านมา ส.ส.กุ้ง ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ หลานสาวบุญเลิศ ก็ชนะเลือกตั้ง ในนามพรรคเพื่อไทย ซึ่งตระกูลบูรณุปกรณ์ ก็อยู่เคียงข้างทักษิน ชินวัตร มากว่า 20 ปี
เมื่อทักษิณ ชินวัตร เขียนจดหมายอ้อนแฟนคลับให้ช่วยทนายก๊อง ถึงขนาดทุ่มตัวลงมาสู้ศึกเอง ย่อมส่งผลสั่นสะเทือนถึงฐานเสียงบุญเลิศซึ่งเคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับฝั่งเพื่อไทยอย่างหนัก
งานนี้ บุญเลิศ แก้เกมด้วยการเชิญจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ลงมาช่วยปราศรัย แบบดุเดือดประกาศอุดมการณ์บุญเลิศ ว่าอยู่ฝั่งประชาธิปไตยเสียสละเอาตัวเข้าต่อสู้กับเผด็จการจนติดคุกติดตารางมาแล้ว หวังรักษาฐานเสียงเสื้อแดงให้คงอยู่กับบุญเลิศให้ได้
การแลกหมัดกันอย่างดุเดือดในสนามเลือกตั้งอบจ.เชียงใหม่ ครั้งนี้ ถ้าฝ่าย ทนายก๊อง พิชัย เลิศพงศ์อดิศร ไม่ชนะเลือกตั้ง ย่อมสะท้อนไปถึงความตกต่ำสิ้นมนตร์ขลังของตระกูลชินวัตร ที่แม้กระทั่งบ้านตัวเอง ยังรักษาไว้ไม่ได้ สะเทือนไปถึงคะแนนพรรคเพื่อไทย ในระดับประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ศึกครั้งนี้ จึงมั่นใจได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร จะต้องทุ่มเททุกสรรพกำลัง ออกอาวุธทุกรูปแบบเข้าต่อกรกับบุญเลิศอย่างแน่นอน
ในขณะเดียวกัน เสี่ยโต๊ะ บุญเลิศ นักธุรกิจหมื่นล้าน ผู้ที่ครองเก้าอี้สนามท้องถิ่น ทั้งเทศบาลนครเชียงใหม่และอบจ.เชียงใหม่ ต่อเนื่องกันมากว่า 20 ปี มีหลานสาวเป็นส.ส.เพื่อไทย และหลานชายเป็นนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ คงต้องงัดเอาผลงานท้องถิ่นมายืนยันสร้างการยอมรับจากชาวเชียงใหม่ให้ได้ และศึกครั้งนี้จะพิสูจน์ให้เห็นว่า บุญเลิศสามารถยืนได้ด้วยตนเองในสนามท้องถิ่น โดยไม่ต้องเอาหลังพิงซุปเปอร์เพาเวอร์อย่างทักษิน ชินวัตร อีกต่อไป
วันนับคะแนน อบจ.เชียงใหม่ จึงน่าติดตามที่สุด สำหรับ ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. เชียงใหม่มีผู้สมัครทั้งหมด 6 คน ที่แต่ละคนมีดีกรีทางการเมืองและประสบการณ์ไม่แพ้กัน ได้แก่ เบอร์1 นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เบอร์2 นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ เบอร์ 3 นายวินิจ จินใจ เบอร์ 4 นายบดินทร์ กินาวงศ์ เบอร์ 5 นายวสันต์ วัชวงษ์ และเบอร์ 6 นายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ โดยจังหวัดเชียงใหม่มีเขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ จำนวน 42 เขตเลือกตั้ง