เปิดคำพิพากษา ป.ป.ช.ลงดาบ “นายกเล็ก” ในคดีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ศาลตัดสินแล้ว 10 ราย
เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยคำพิพากษาในคดีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ที่ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดและส่งฟ้องศาลดำเนินคดี ซึ่งอัยการสูงสุดจะไม่อุทธรณ์ หรือไม่ฎีกาต่อในคดีอาญา ในจำนวน 40 คดีที่ถูกเปิดเผยออกมานี้ มีคนท้องถิ่นรวมอยู่ด้วยถึง 34 คดี และในจำนวนนี้ เป็นผู้ดำรงตำแหน่งนายกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวม 10 คดี
ทุจริตในการจ้างเหมาดำเนินโครงการต่างๆ รวม 7 โครงการ : นายประพจน์ เพียรพิทักษ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองน้ำไหล อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2557 มีความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ. ฮั้ว) มาตรา 10 และ มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2560 ว่ามีความผิดจริงตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ พ.ร.บ. ฮั้ว มาตรา 10 และมาตรา 12 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานกระทำการโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม ตามมาตรา 12 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุก 9 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 คงจำคุก 6 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้เป็นว่าให้ลดโทษจำคุก 5 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงเหลือ จำคุก 3 ปี 4 เดือน
นำไม้ที่รื้อถอนจากพื้นห้องเรียนอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็กไปเก็บไว้ที่บ้านพักตน เป็นเหตุให้ไม่ได้รับเงินค่าจำหน่ายพัสดุที่รื้อถอน : นายประทีป หอมเพียร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลบ้านเกาะ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2556 มีความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 และ มาตรา 157
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 6 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ว่ามีความผิดจริงตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147 (เดิม) และ มาตรา 157 (เดิม) การกระทําของจําเลย เป็นความผิดกรรม เดียวต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตาม มาตรา 147 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตาม มาตรา 90 จําคุก 5 ปี แต่เนื่องจากคำให้การของจําเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาของศาล ถือเป็นเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม ตาม มาตรา 78 คงจําคุก 3 ปี 4 เดือน กับให้จําเลยคืนไม้พื้นที่เอาไป หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาแทนเป็นเงิน 21,280 บาท
โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าไม่ปรับบท มาตรา 157 (เดิม) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ลงโทษปรับจำเลยอีกสถานหนึ่งเป็นเงิน 15,000 บาท ลดโทษตามมาตรา 78 ให้หนึ่งในสามคงเหลือปรับ 10,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี และคุมประพฤติจำเลยไว้ 1 ปี ตามมาตรา 56 ไม่ชําระ ค่าปรับให้จัดการ ตามมาตรา 29, 30 ยกคําขอให้จําเลยคืนหรือใช้ราคาไม้พื้นเนื้อแข็งแก่ผู้เสียหาย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคําพิพากษาศาลชั้นต้น
ตรวจรับงาน เบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้แก่ผู้รับงาน ทั้งที่ผู้รับจ้างยังมิได้ปฏิบัติงานตามสัญญา : นายชาติชาตรี งามตะคุ นายกเทศมนตรีตำบลปักธงชัย อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา กับพวก ซึ่งคดีนี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 มีความผิดอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ มาตรา 162 (1) (4)
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 ว่าจำเลยที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 (เดิม) มาตรา 162 (1) (4) (เดิม) ประกอบมาตรา 83 ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด มาตรา 90 จำคุก 4 ปี แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 2 ปี
ทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรี : นายสุรศักดิ์ โสตะวงศ์ นายกเทศมนตรีเมืองท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย จำเลยที่ 1 นายณรงค์ วีระศิริ จำเลยที่ 2 นายธีระยุทธ เงาศรี จำเลยที่ 3 และนางทีน่า โสตะวังศ์ จำเลยที่ 4 โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2558 กล่าวหานายสุรศักดิ์กับพวก ทุจริตในการเบิกจ่ายเงินโครงการขอรับเงินสนับสนุนกลุ่มอาชีพสตรีปี 2547 และปี 2550 ว่ามีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และมาตรา 162 (1),(4) ประกอบ มาตรา 86 มาตรา 90
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติ มิชอบภาค 4 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 จำเลยที่ 1 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 มาตรา 162(4) ประกอบมาตรา 83 จำเลยที่ 2 และที่ 3 ผิดตามมาตรา 157 มาตรา 162(4) ประกอบ มาตรา 83 และมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 จำเลยที่ 4 ผิดตามมาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162(4) การกระทำของจำเลยทั้งสี่เป็นการประทำต่อเนื่องในคราวเดียวกันมีเจตนาเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และลงโทษจำเลยที่ 2 ,3 ,4 ในมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด ตามมาตรา 90
ศาลพิพากษาให้จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 5 ปี จำคุกจำเลยที่ 2-4 คนละ 3 ปี 4 เดือน และปรับคนละ 12,000 บาทลดโทษให้จำเลยทั้ง 4 หนึ่งในสาม ตามมาตรา 78 คงจำคุกจำเลยที่ 1 กำหนด 3 ปี 4 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2-4 กำหนดคนละ 2 ปี 2 เดือน และปรับจำเลยคนที่ 2-4 คนละ 8,000 บาท และเห็นสมควรให้ลงการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ตามมาตรา 56
ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2561 พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยที่ 1 ผิดตามมาตรา 151 ส่วนจำเลยที่ 2-4 ผิดตามมาตรา 151 ประกอบมาตรา 86 ให้ยกฟ้องโจทย์ในความผิดมาตรา 162 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
จัดจ้างอาคารเก็บพัสดุไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม : ประเชิญ พิชัย เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.โนนค้อ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 กล่าวหานายประเชิญ จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 9 คน จัดจ้างอาคารเก็บพัสดุไม่เป็นไปตามระเบียบ โดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม เพื่อเอื้ออำนวยให้ผู้เสนอราคารายหนึ่ง เป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา มีความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ พ.ศ.2542 มาตรา 4 มาตรา 7 มาตรา 10 มาตรา 12 และมาตรา 13 และผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 มาตรา 157 มาตรา 162(1) (4) ประกอบมาตรา 86 และมาตรา 90
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ศาลชั้นต้นพิพากษาจำเลยที่ 1 ผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ พ.ศ.2542 มาตรา 10 และมาตรา 12 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 ให้จำคุกจำเลยที่ 1 จำนวน 5 ปี
จัดซื้อที่ดินไม่เหมาะสมเพื่อใช้ก่อสร้างสำนักงานเทศบาล เนื่องจากมีที่ดินตาบอดอยู่ 2 แปลง : นายอัศวิน จินตวร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลร่อนพิบูลย์ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2553 กล่าวหานายอัศวินกับพวก จัดซื้อที่ดินไม่เหมาะสมเพื่อใช้ก่อสร้างสำนักงานเทศบาลตำบลร่อนพิบูลย์ เนื่องจากมีที่ดินตาบอด 2 แปลง อยู่ในที่ดินที่จัดซื้อ และเป็นที่ดินที่มีการรอนสิทธิ์ โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157
ศาลจังหวัดทุ่งสง ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2560 ให้จำเลยผิดตามมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี และศาลอุทธรณ์ ภาค 8 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2561 แก้ให้จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151 และมาตรา 157 จำคุก 5 ปี
เรียกรับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ : นายมงคล เหล็กลอย นายก อบต.ด่านจาก อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 กล่าวหานายมงคล เรียกรับเงินประโยชน์ตอบแทนอื่นเป็นกรณีพิเศษ (โบนัส) จากพนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานจ้างของ อบต.ด่านจาก ว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 และ มาตรา 157 และผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 ประกอบประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2561 ว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 (เดิม) ผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103 วรรคหนึ่ง มาตรา 122 วรรคหนึ่ง พิพากษาจำคุก 5 ปี โดยลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน ภายหลังมีการยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
อนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ : นายประสิทธิ์ สงวนโสตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 กล่าวหานายประสิทธิ์ ในความผิดกรณีอนุมัติจ่ายขาดเงินสะสมไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ และดำเนินการจัดจ้างโดยวิธีพิเศษ ทั้งที่ไม่มีอำนาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ใดผู้หนึ่งเป็นผู้มีสิทธิทำสัญญา มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2542 (พ.ร.บ. ฮั้ว) มาตรา 7 และ มาตรา 12 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 90 และมาตรา 91
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2561 ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 มาตรา 157 และผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาฯ มาตรา 12 ซึ่งการกระทำของจำเลย เป็นความผิดสามกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้จำคุกกระทงละ 5 ปี และมีเหตุบรรเทาโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุกกระทงละ 3 ปี 4 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 9 ปี 12 เดือน
นำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว : ร้อยตรี สิทธิชัย นิยมทอง นายก อบต.ปากข้าวสาร อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี ซึ่ง ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 กล่าวหาร้อยตรี สิทธิชัย นำรถยนต์ของทางราชการไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2562 ให้จำเลยผิดตามมาตรา 157 (เดิม) จำคุก 1 ปี และปรับ 20,000 บาท ซึ่งจำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท โดยให้รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี
ปลอมเอกสาร เพื่อช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานส่วนตำบล : นายประเสริฐ เรียนไธสง นายก อบต.เมืองยาง อ.เมืองยาง จ.นครราชสีมา โดย ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2560 กล่าวหานายประเสริฐกับพวกปลอมแปลงเอกสาร เพื่อช่วยเหลือให้ได้รับการบรรจุแต่งตั้งเป็นพนักงานส่วนตำบล มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 ให้จำเลยมีความผิดตาม มาตรา 157 จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา มีเหตุให้บรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี ซึ่งต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคำสั่งของศาลชั้นต้น
กรณีนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของคดีเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ยังมีอีกหลายคดีที่จำเลยดำรงตำแหน่งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในตำแหน่งอื่นๆ ที่มิใช่ตำแหน่งนายกฯ และถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจนนำไปสู่การฟ้องร้องคดีในชั้นศาล ซึ่งมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ศาลจะยกฟ้อง ไม่ว่าจะดำรงตำแหน่งใดๆ โปรดอย่าทำผิด เพราะระดับท้องถิ่น ป.ป.ช.เฝ้าดูอยู่ ขอบอกว่า รอดยาก!