close

หน้าแรก

menu
search

อปท.เตรียมร่วมรับมือ พายุ ปาบึก พายุโซนร้อนลูกแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่พัดเข้าอ่าวไทยในช่วงเดือนมกราคม!!!

schedule
share

แชร์

       เบอร์โทรสำคัญ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 กรณีเกิดภัยพิบัติให้ขอความช่วยเหลือได้ที่หมายเลขสายด่วน 1784 หรือ 075 214382 ตลอด 24 ชั่วโมง

       เตรียมรับมือ “ปาบึก” เป็นพายุโซนร้อนลูกแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่พัดเข้าอ่าวไทยในช่วงเดือนมกราคม ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ความแรงเทียบเท่าพายุโซนร้อนแฮเรียตเมื่อปี 2505 ที่เคยพัดเข้าแหลมตะลุมพุก แต่อย่าตื่นตระหนก เพราะกรมอุตุฯ มีระบบการเตือนภัยที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าอดีต ชี้ช่วง 1-2 เดือนนี้ยังคงต้องเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ที่ก่อตัวอยู่นอกฝั่งฟิลิปปินส์ แต่คาดการณ์เบื้องต้นเชื่อว่าไม่กระทบต่อไทย

       ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา “พายุ” ปาบึก” (PABUK)” ฉบับที่ 9 ลงวันที่ 2 มกราคม 2562 ความว่า พายุโซนร้อน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนล่าง โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 6.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.0 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

       พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนผ่านปลายแหลมญวน และเคลื่อนลงอ่าวไทยในช่วงวันที่ 2-3 มกราคม 2562 และจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรอยต่อระหว่างจังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานี ในช่วงค่ำของวันที่ 4 มกราคม 2562 โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 มกราคม 2562 ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ โดยมีผลกระทบดังนี้

       ในช่วงวันที่ 3-4 มกราคม 2562 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล

       ในช่วงวันที่ 4-5 มกราคม 2562 บริเวณภาคใต้จะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

       สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ส่วนทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรงดออกจากฝั่งตั้งแต่วันที่ 2-5 มกราคม 2562

       ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

       นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวว่า พายุปาบึก เป็นพายุโซนร้อนลูกแรกในรอบกว่า 30 ปี ที่พัดเข้าอ่าวไทยในช่วงเดือนมกราคม ถือเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งความแรงของพายุลูกนี้เทียบเท่าพายุโซนร้อนแฮเรียตเมื่อปี 2505 ที่เคยพัดเข้าแหลมตะลุมพุก แต่ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากกรมอุตุฯ มีระบบการเตือนภัยที่ทันสมัยและรวดเร็วกว่าอดีตที่ผ่านมา จึงขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด พร้อมยืนยันพายุลูกนี้ ไม่มีโอกาสพัฒนาเป็นพายุโซนร้อนกำลังแรง หรือพายุไต้ฝุ่นอย่างแน่นอน ซึ่งในช่วง 1-2 เดือนนี้ ยังคงต้องเฝ้าระวังพายุลูกใหม่ที่ก่อตัวอยู่นอกฝั่งฟิลิปปินส์ แต่คาดการณ์เบื้องต้นเชื่อว่าไม่กระทบต่อไทย

       พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เรียกประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ผ่านระบบทางไกล โดยได้สั่งการเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการเตรียมพร้อมรับมือพายุปาบึก ที่จะมีความรุนแรง สร้างผลกระทบเกิดฝนตกและลมกรรโชกแรง นอกจากเป็นห่วงภาวะฝนที่ สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตกแล้วยังต้องเป็นห่วงเรื่องเรื่องของลมแรงที่พัดเข้ามารุนแรงอย่างมาก และให้ประสานกับทุกหน่วยงานในการเตรียมพร้อมรับมือตั้งแต่การเฝ้าระวัง การช่วยเหลือขณะเกิดภัย การเตรียมสถานที่อพยพ และการฟื้นฟู ตามสภาพอากาศ เตรียมความพร้อมกำลังพลรับมือพายุโซนร้อน “ปาบึก” และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้ระวังติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดงดการเดินเรือ

       ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย วาตภัย ดินถล่ม และคลื่นลมแรงจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งถึงส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง นายอำเภอทุกอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ให้เตรียมความพร้อมในการรับมือพายุโซนร้อนปาบึก โดยจะมีผลกระทบต่อภาคใต้ในช่วงวันที่ 3-5 ม.ค.

       ดังนั้น เพื่อเป็นการเน้นย้ำการปฏิบัติ และการเตรียมความพร้อมที่อาจจะสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จังหวัดนครศรีธรรมราช จึงขอให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามสถานการณ์ข่าวสารการพยากรณ์อากาศ การแจ้งเตือนภัย สภาพน้ำท่าจากทางราชการอย่างใกล้ชิด ผู้ประกอบการขนส่งทางเรือให้เตรียมอุปกรณ์ชูชีพให้เพียงพอและตรวจสอบความพร้อมก่อนออกเรือ และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการในการเตรียมรับสถานการณ์โดยถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากจำเป็นต้องอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย 

       พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงความจำเป็นต้องอพยพเพื่อความปลอดภัยของประชาชนเอง โดยขอให้ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุ ให้อำเภอบูรณาการร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพิ่มศักยภาพในการผลักดันน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว และให้อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องถิ่น/ท้องที่ อาสาสมัครองค์กรการกุศล เพื่อประสานการบูรณาการ เตรียมความพร้อมทรัพยากรเครื่องมือ อุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย และกำลังเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์จัดการภัยพิบัติตำบล (1 ตำบล 1 ศูนย์จัดการภัยพิบัติและอุบัติภัย) ในการช่วยเหลือประชาชน กู้ภัยและบรรเทาภัยตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีมีคลื่นลมแรงบริเวณชายฝั่ง หรือในทะเลมีคลื่นสูง ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกลาดตระเวนแจ้งเตือนการเดินเรือ เรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว เรือข้ามฟาก ให้งดออกจากฝั่ง

 

3 มกราคม 2562

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมือ…

schedule
“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

ความสำคัญของ อบจ. ผู้มีอำนาจสุดแกร่งและทรงอิทธิพล ด้วยบ…

schedule
สภาฯ คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ดินฯ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหน้าบ้านประชาชน

สภาฯ คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ดินฯ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหน้าบ้านประชาชน

สภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่เห็นชอบ พ.ร.บ.ที่ดินฯ อ้างความเห…

schedule
“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผอ.สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย ส…

schedule

นิตยสารผู้นำท้องถิ่นออนไลน์ รวมข่าวสารอัพเดทของคนท้องถิ่น

ติดต่อเรา

อีเมล : [email protected]