close

หน้าแรก

menu
search

สถ.- กสศ. ร่วม MOU เดินหน้า “ระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา” ผ่าน อปท.ทั่วประเทศ

schedule
share

แชร์

          ตั้งเป้ายกระดับทุนเสมอภาคสู่การสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษาทั้งระบบแบบอย่างยั่งยืนทุกมิติ การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาที่มุ่งเน้นยกระดับทุนเสมอภาคสู่การสร้างหลักประกันโอกาสทางการศึกษาทั้งระบบ และเป็นการร่วมมือพัฒนาแบบยั่งยืน หลังจาก MOU ร่วมมือพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษตั้งแต่ระดับอนุบาล – ม.ต้น ในโรงเรียนสังกัด อปท. ทั่วประเทศ ตั้งเป้า 3 ปีข้างหน้า ตั้งเป้ายกระดับทุนเสมอภาคไปสู่การเป็นหลักประกันทางการศึกษาที่คุ้มครองเด็กเป็นรายบุคคล ให้ศึกษาต่อระดับสูงสุดตามความสามารถ

 

          นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ในการดำเนินการพัฒนาหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาทั้งระบบ สำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พิการ ด้อยโอกาส และการพัฒนาคุณภาพครู สถานศึกษา  เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2565 ณ ห้องประชุม 5501  พร้อมด้วยผู้บริหารกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กสศ. ดร.อุดม วงษ์สิงห์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาคุณภาพครูและสถานศึกษา กสศ. และนางสาวกนิษฐา คุณาวิศรุต รักษาการผู้อำนวยการสำนักพัฒนาหลักประกันโอกาสทางการศึกษา กสศ. นายสุพจน์ จิตร์เพ็ชร์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เข้าร่วม

 

          การลงนามบันทึกข้อตกลง MOU ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ กสศ. ในการพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษา  ในรอบ 3 ปี(ปี 2562-2565) โดยมุ่งเน้นร่วมมือพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษตั้งแต่ระดับอนุบาล – ม.ต้น ในโรงเรียนสังกัด อปท. ทั่วประเทศ ผ่านโครงการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข หรือ ทุนเสมอภาค เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาและบรรเทาอุปสรรคการไปโรงเรียน ป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาภาคบังคับของนักเรียนในสังกัด  

 

          นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กล่าวว่า  การลงนามบันทึกข้อตกลงครั้งนี้  มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนวัตกรรมการคัดกรองความยากจน การจัดสรรงบประมาณแบบมีเงื่อนไข และระบบการติดตามของสถานศึกษาสังกัด อปท. เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และให้การช่วยเหลือนักเรียนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ นักเรียนพิการ และด้อยโอกาส ที่สอดคล้องกับความถนัดและพัฒนาตนเองตามศักยภาพเป็นรายบุคคล ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาให้ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้นตามศักยภาพ

 

          สนับสนุนให้เกิดการพัฒนาครู และสถานศึกษาสังกัด อปท. ที่สอดคล้องกับความต้องการและส่งผลต่อการพัฒนาคุณภาพของนักเรียน พัฒนาต้นแบบการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา รวมทั้ง แรงงานนอกระบบที่เป็นผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับการศึกษาหรือการพัฒนา เพื่อให้มีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพตามความถนัดและมีศักยภาพที่จะพึ่งพาตนเองในการดำรงชีวิตได้

 

สถ.- กสศ. ร่วม MOU เดินหน้า

 

          พร้อมทั้งสนับสนุนการดำเนินงานจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ และการสร้างการมีส่วนร่วมในระดับพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง และสถานศึกษา ร่วมดำเนินการในพื้นที่นำร่องเพื่อการวิจัยสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา และจะสนับสนุนการผลักดันผลการดำเนินงานเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบาย

 

          “กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นหวังว่าการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่ไม่ใช่แค่การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกัน แต่จะเป็นการปฏิบัติและมีเป้าหมายการทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืนทุกมิติ กรมส่งเสริมการปกครองถิ่นยินดีอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงฐานข้อมูลการทำงาน การประสานงานต่างๆ ร่วมกันกับ กสศ. เพื่อปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในทุกด้าน”อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าว

 

สถ.- กสศ. ร่วม MOU เดินหน้า

 

          ด้าน ดร.ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า ความร่วมมือในการพัฒนาระบบหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาระหว่าง กสศ. และ สถ. ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้ร่วมดำเนินงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โรงเรียนในสังกัด อปท. และศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ซึ่งสามารถสรุปผลสำเร็จ 5 ด้าน ที่จะนำไปสู่การพัฒนาหลักประกันความเสมอภาคทางการศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ พิการ ด้อยโอกาส และการพัฒนาคุณภาพครู สถานศึกษา ให้มีความต่อเนื่องดังนี้

  1. การค้นหานักเรียนยากจนและยากจนพิเศษเพื่อรับทุนเสมอภาค พบว่า ภาคเรียนที่ 1/2565 มีนักเรียนในสังกัด อปท. ได้รับการจัดสรรทุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จำนวน 26,376 คน รวมงบประมาณราว 40 ล้านบาท ในจำนวนนี้มีนักเรียนยากจนพิเศษได้รับจัดสรรทุนเสมอภาคเพิ่มเติมจาก กสศ. จำนวน 17,965 คน ด้วยงบประมาณจาก กสศ. ราวปีละ 28 ล้านบาท นอกจากการจัดสรรทุนสนับสนุนเพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา กสศ. ยังได้ส่งต่อข้อมูลนักเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สนับสนุนทรัพยากรเพื่อการศึกษาจากแหล่งต่างๆ ต่อไป
  2. การทำงานกับครูและสถานศึกษาในสังกัด อปท. 35 แห่ง ใน 19 จังหวัด พัฒนามาตรการลดความเหลื่อมล้ำด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนในสถานศึกษาสังกัด อปท. ผ่านการพัฒนาเครือข่ายสถานศึกษาต้นแบบ ที่เรียกว่า โรงเรียนพัฒนาตนเอง TSQP เป็นต้นแบบด้านการกระจายอำนาจเพื่อสร้างสรรค์การเรียนรู้ไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ของผู้เรียนระหว่างสถานศึกษาในพื้นที่ชนบทและสถานศึกษาในพื้นที่เมือง ซึ่งธนาคารโลกเคยประเมินว่ามีช่องว่างความเหลื่อมล้ำด้านประสิทธิภาพในการเรียนรู้ระหว่างสองพื้นที่ห่างกันถึง 2 ปีการศึกษา ความร่วมมือนี้มีครูโรงเรียนสังกัด อปท. ได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงระบบและรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะกับบริบทตนเองไม่น้อยกว่า 818 คน นักเรียนได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 12,967 คน
  3. การยกระดับคุณภาพศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3,769 แห่ง ใน 15 จังหวัดนำร่อง โดยปี 2563-2564 มีเด็กปฐมวัยที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เข้าถึงการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้จำนวน 45,028 คน ซึ่งในภาคเรียนที่ 2/2565 กสศ. และ สถ. จะร่วมกันทดลองนำการพัฒนาด้านการอบรมเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยกับผู้ปกครองประมาณ 1,440 กลุ่มตัวอย่าง นำหลักสูตร Reach Up ไปประยุกต์ใช้กับการให้เงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข (Conditional cash transfer หรือ CCT) ใน 6 พื้นที่ 7 จังหวัดใน 72 ตำบลนำร่องครบ 4 ภูมิภาค คือ 1) พื้นที่จังหวัดสงขลา 2) พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ 3) พื้นที่จังหวัดนครนายก 4) พื้นที่จังหวัดลพบุรี 5) พื้นที่จังหวัดขอนแก่น และ 6) พื้นที่จังหวัดมหาสารคามและจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในอนาคตจะทำงานร่วมกันต่อเนื่องกับอีกหลายหน่วยงาน
  4. การส่งเสริมการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ โดยได้ร่วมกับยูเนสโกและกระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนเทศบาลแห่งการเรียนรู้ (Learning city) ใน 12 จังหวัดนำร่อง ทดลองลดขนาดการจัดการกับความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาจากระดับประเทศมาเป็นระดับพื้นที่ เพื่อให้มีความคล่องตัวและสร้างการมีส่วนร่วมมากขึ้น
  5. การสนับสนุนข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ทันต่อสถานการณ์หรือวิกฤตต่างๆ เช่น การปรับอัตราเงินอุดหนุนอาหารกลางวัน และอัตราเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจนภายใต้โครงการเรียนฟรี 15 ปีให้สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น หลังจากการไม่มีความเปลี่ยนแปลงในอัตราปัจจุบันมากกว่า 12 ปี

          การสำรวจสถานะความพร้อมในการเข้าสู่ระบบการศึกษาจากการปิดสถานศึกษาในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดปัญหาภาวะการเรียนรู้ถดถอย (Learning Loss) กับเด็กปฐมวัย เพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษาทั้งในระดับชาติ และสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติ

 

          “ในอีก 3 ปีข้างหน้าภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สถ. และ กสศ. จะต่อยอดความสำเร็จทั้ง 5 เรื่อง โดยจะเป็นการผลักดันเชิงนโยบายมากขึ้น เพื่อยกระดับทุนเสมอภาคไปสู่การเป็นหลักประกันทางการศึกษาที่คุ้มครองเด็กเป็นรายบุคคล ให้สามารถศึกษาต่อไปจนสูงสุดได้ตามความสามารถของเขา รวมถึงการทำงานกับ อปท. ในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ โดยเฉพาะการลดภาวะถดถอยทางการเรียนรู้หลังโควิด-19 นอกจากนี้ จะมีข้อเสนอเชิงงบประมาณและการปฏิรูปร่วมกับกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กสศ. เองก็จะปรับปรุงเครื่องมือให้ทันสมัยเพื่อลดภาระและคืนเวลาให้กับครูให้ทำงานได้สะดวกขึ้น รวมถึงการพัฒนาต้นแบบสำหรับการศึกษาเรียนรู้นอกระบบ” ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าว

 

          ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กล่าวอีกว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างไร้รอยต่อตั้งแต่ปฐมวัยถึงอุดมศึกษาเป็นระยะเวลา 20 ปี ด้วยการพัฒนาระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษาที่เชื่อมต่อฐานข้อมูลและการทำงานในการดูแลและส่งต่อความเสมอภาคให้แก่เด็กเยาวชนภายใต้การกำกับดูแลของ สถ. ให้สามารถเข้าถึงทรัพยากรและโอกาสทางการศึกษา รวมทั้งมาตรการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครู สถานศึกษา ให้สามารถพัฒนาศักยภาพในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของผู้เรียนได้ด้วยตัวสถานศึกษาเองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

สถ.- กสศ. ร่วม MOU เดินหน้า

 

สถ.- กสศ. ร่วม MOU เดินหน้า

 

 

เรื่องราวที่เกี่ยวข้อง

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมืองนอน

ภท. เปิดเวทีเวิร์กชอป เตรียมเสนอร่าง พ.ร.บ.บ้านเกิดเมือ…

schedule
“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

“อบจ.” อำนาจเงียบที่ทรงอิทธิพล

ความสำคัญของ อบจ. ผู้มีอำนาจสุดแกร่งและทรงอิทธิพล ด้วยบ…

schedule
สภาฯ คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ดินฯ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหน้าบ้านประชาชน

สภาฯ คว่ำกฎหมาย พ.ร.บ.ที่ดินฯ เพิ่มอำนาจท้องถิ่นแก้ปัญหาหน้าบ้านประชาชน

สภาผู้แทนราษฎร ลงมติไม่เห็นชอบ พ.ร.บ.ที่ดินฯ อ้างความเห…

schedule
“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

“สติธร” ชี้โมเดลเส้นเลือดฝอย กทม. แก้ปัญหาการกระจายอำนาจท้องถิ่น

ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผอ.สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย ส…

schedule

นิตยสารผู้นำท้องถิ่นออนไลน์ รวมข่าวสารอัพเดทของคนท้องถิ่น

ติดต่อเรา

อีเมล : [email protected]