ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนนครไชยศรี นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายกเทศมนตรีนครสมุทรปราการ และนางบารนี เลิศไพศาล อดีตปลัดเทศบาลนครสมุทรปราการ เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์สินใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต เป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาล กรณีที่จำเลยทั้งสอง ร่วมกันว่าจ้าง บริษัทเอกชนเพื่อดำเนินการเก็บขนขยะมูลฝอยและกวาดถนนในพื้นที่เทศบาลนครสมุทรปราการ โดยให้ผู้รับจ้างเข้าดำเนินการตามสัญญาจ้างเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2546 รวมระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยรับเงินค่าจ้างรายเดือนๆละ 2,145,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 128,700,000 บาท ซึ่งการกำหนดรับเงินลักษณะนี้ ถือเป็นการก่อหนี้ผูกพันงบเกินกว่า 1 ปีงบประมาณโดยมิชอบ เนื่องจากขัดต่อระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2541 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543 ข้อ 38 เนื่องจากมิใช่เป็นโครงการประเภทที่ดินและสิ่งก่อสร้างและมิได้รับอนุมัติจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ
คดีนี้ ศาลชั้นต้น พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งสองเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 ต่อมาอัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แล้ว สรุปว่าได้พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนคดีและพยานหลักฐานที่นำสืบมายังฟังไม่ได้ว่า จำเลยทั้งสอง มีเจตนาแฝงและยังฟังไม่ได้ว่ามีเจตนาจงใจ จะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบฯหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยมานั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืน
ทั้งนี้ ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว นายชนม์สวัสดิ์ ได้รับการสอบถามจากสื่อสารมวลชนว่า การหาเสียงในพื้นที่สมุทรปราการเป็นอย่างไรบ้าง นายชนม์สวัสดิ์ กล่าวว่า ดูเพียงสโมสรฟุตบอลสมุทรปราการ ซิตี้ อย่างเดียวพร้อมฝากสื่อมวลชนช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจให้ ก่อนเดินทางกลับในทันที