ประชุมสันนิบาตเทศบาลสุดยิ่งใหญ่ 4 พันชีวิตร่วมงานคึกคัก “นายกพงษ์ศักดิ์” นครยะลา ส่งต่อเก้าอี้ “นายกสมชาย ” เมืองสนั่นรักษ์ ทำหน้าที่นายกสมาคมฯ คนที่ 34
เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อาคาร 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมและสัมมนาทางวิชาการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2/2565 ประจำปี พ.ศ. 2565 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-21 กันยายน โดยมีนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา นายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ อุปนายกภาคกลาง นายวิสูตร จงชูวณิชย์ นายกเทศมนตรีตำบลบรบือ อุปนายกภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายบุญเกื้อ พากเพียรศิลป์ นายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี อุปนายกภาคตะวันออก นายรอเซ็ง ไหลเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลเกาะแต้ว อุปนายกภาคใต้ นายสิงห์ทอง หนุนนำสิริสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเทิง รองประธานคณะกรรมการสันนิบาตเทศบาลภาคเหนือ (ผู้แทนอุปนายกภาคเหนือ) และคณะกรรมาธิการบริหาร ส.ท.ท. ประธานสันนิบาตเทศบาลจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมด้วยนายกเทศมนตรี ประธานสภาเทศบาล ปลัดเทศบาล และบุคลากรสังกัดเทศบาลสมาชิกทั่วประเทศ เข้าร่วมการประชุมฯ ราว 4,000 คน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวในพิธีเปิดว่า ในส่วนของการสัมมนาในวันนี้ เป็นแนวความคิดที่ตอบโจทย์การกระจายอำนาจให้กับท้องถิ่นในการดูแลประชาชน แต่การกระจายอำนาจนั้นจะทำได้ดีแค่ไหนอย่างไร จะต้องอาศัยความรู้ ประสบการณ์ ตนขอชื่นชมและชมเชยท่านนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยและคณะที่มีความคิดริเริ่มในการพัฒนาบุคลากรของเทศบาลในหลายวิธีการ มีการจัดฝึกอบรมที่เป็นหลักสูตร มีสื่อที่ให้ความรู้ในลักษณะวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ มีแนวทางในการยกระดับความรู้ของบุคลากรเทศบาล ตนถือว่าเป็นความสำเร็จและขอให้กำลังใจในการดำเนินการต่อไป
ภายในการประชุมฯ มีการจัดบรรยายทางวิชาการในหัวข้อต่างๆ จากนักวิชาการทั้งในระดับประเทศ และในระดับสากล อาทิ การบรรยายในหัวข้อ การวิจัยและพัฒนาแหล่งรายได้ใหม่ของเทศบาล โดย ดร.บุญวรา สุมะโน เจนพึ่งพร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ที่ได้ร่วมมือกับสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยในการวิจัยข้อมูลจากเทศบาลทั่วประเทศ ได้แบ่งปันผลการศึกษาเป็นแนวทางการปรับปรุงแหล่งรายได้ในปัจจุบัน แนวทางการหาแหล่งรายได้รูปแบบใหม่ และข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลปัจจุบัน ทั้งการทบทวนกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรายได้ของ อปท. และการชดเชยรายได้ของท้องถิ่นที่หายไปจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
สำหรับการเรียนรู้ประสบการณ์ในระดับสากล สมาคมฯ ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจาก 2 ประเทศต้นแบบ ร่วมแบ่งปันผ่านแอปพลิเคชันซูม ได้แก่ ปาฐกถาในหัวข้อ Sustainable Development Goals and Urban Development : Lessons and Challenges : การวางแผนการใช้ที่ดินของสิงคโปร์และการทบทวนแผนระยะยาว โดย Ms.Hwang Yu-Ning Chief Planner of the Urban Redevelopment Authority (URA) Singapore
และปาฐกถาในหัวข้อ : Cities and Learning Development เมืองกับการพัฒนาการเรียนรู้ โดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฟินแลนด์ Dr.Kristina Erkkila Senior Advisor, MDI Public, Finland
สำหรับวิทยากรจากหน่วยงานระดับประเทศ ที่ร่วมปาฐกถาบนเวที อาทิ ปาฐกถาหัวข้อ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและการพัฒนาเมือง : บทเรียนและความท้าทาย โดย Mr.Renaud Meyer Resident Representative UNDP Thailand และนายวิสุทธิ์ ตันตินันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความร่วมมือและขยายพันธกิจ (UNDP Thailand) และการบรรยายในหัวข้อ การให้บริการประชาชนของศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล โดย นายสมหมาย เอี่ยมสะอาด ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
รวมทั้งปาฐกถาพิเศษ “กรุงเทพมหานคร เมืองน่าอยู่สำหรับทุกคน” โดย นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และการบรรยายในหัวข้อ “ผู้บริหารกับการแปลงนโยบายไปสู่การขับเคลื่อนท้องถิ่น” โดย ดร.ไพบูลย์ โพธิ์สุวรรณ จากสถาบันพระปกเกล้า จัดเต็มความรู้ทุกมิติให้กับบุคลากรที่เข้าร่วมประชุมอย่างเต็มเวลาตลอดทั้ง 2 วัน
นอกจากนี้ ในการประชุมฯ สมาคมสันนิบาตฯ ได้เชิญหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมแสดงผลงานและนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานของเทศบาลทั่วประเทศ อาทิ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) , สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) , กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) , TK Park , สำนักงบประมาณ , สำนักงานรัฐบาลดิจิทัล องค์การมหาชน (DGA) และเทศบาลเมืองแม่เหียะ จ.เชียงใหม่ ที่ได้นำนวัตกรรมการบริการประชาชนสู่เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ ต้นแบบท้องถิ่นดิจิทัล ซึ่งได้รับรางวัลพระปกเกล้าทองคำ ประจำปี 2562 มาร่วมแสดงในงานนี้ด้วย
ทั้งนี้ ภายใต้การประชุมใหญ่ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ได้มีพิธีส่งมอบตำแหน่งนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศคนที่ 34 ที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งแทน นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ตัวแทนจากภาคใต้ ซึ่งกำลังจะครบวาระ 2 ปีในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยมีกำหนดการหมุนเวียนตามลำดับภาค ดังนี้ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคเหนือ ภาคใต้ นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเมืองสนั่นรักษ์ อุปนายกภาคกลาง จึงเป็นผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยในลำดับต่อไป
สำหรับผลงานของ นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ในฐานะนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย คนที่ 33 ถือได้ว่าเป็นผู้ที่เข้ามาพลิกโฉมและยกระดับการทำงานของสมาคมฯ ในหลายๆ ด้าน อาทิ เป็นศูนย์กลางสร้างความเข้มแข็งในเรื่องการจัดการวัคซีน และการจัดหาชุดตรวจโควิดให้กับเทศบาลสมาชิก ในช่วงที่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีความรุนแรง , ร่วมมือกับสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย และสมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมายในหลายประเด็น เพื่อส่งเสริมการกระจายอำนาจ และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเทศบาล โดยเฉพาะการเรียกร้องเงินชดเชยจากการลดการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างลง 90 เปอร์เซ็น จากนโยบายของรัฐบาล ซึ่งผลลัพธ์ของการเรียกร้องดังกล่าวเบื้องต้น ทำให้เทศบาลได้รับเงินชดเชยมาแล้ว 10 เปอเซ็นต์ของรายได้ที่หายไป , การปรับปรุงอาคาร ห้องทำงาน และห้องประชุมของสมาคม ให้สามารถรองรับเทคโนโลยีการประชุมในสมัยใหม่ เพื่อให้การประชุมในยุคที่ต้องรักษาระยะห่าง สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบของอาคารสมาคมฯ ให้สวยงาม , การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการทำงาน และปรับปรุงคอนเทนต์ในการสื่อสารข้อมูลข่าวสารไปยังเพื่อนสมาชิกและประชาชน ผ่านสื่อสารมวลชนรูปแบบต่างๆ
“เราได้มีการทำเรื่องของตลาดนัดวิชาการ เพื่อให้เทศบาลจำนวน 2,400 กว่าแห่งสามารถเรียนรู้วิชาการได้พร้อมๆ กัน และจัดตลาดนัดวิชาการในทุกๆ เดือน ในเรื่องของโซเชียลคอนเทนต์ เราได้มีการปรับปรุงคอนเทนต์ในเฟซบุ๊กของสมาคมฯ ทำให้วันนี้มีตัวเลขของคนติดตามเพิ่มมากขึ้นถึง 300 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงที่ผมได้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว
นอกจากการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับสมาคมสันนิบาตฯ นายพงษ์ศักดิ์ยังติดอาวุธการทำงานให้กับนายกเทศมนตรี โดยการร่วมมือกับสถาบันพระปกเกล้า จัดหลักสูตรการพัฒนาตนเอง การสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับนายกเทศมนตรี และผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อให้สามารถทำงานในยุคที่เทคโนโลยีและการใช้ชีวิตของคนมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
รวมไปถึงการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานระดับชาติ อาทิ UNDP เพื่อการพัฒนาในมิติใหม่ๆ อย่างยั่งยืน และการสนับสนุนการวิจัยผ่านทีดีอาร์ไอ เพื่อนำข้อมูลการวิจัยเชิงวิชาการมาเป็นเครื่องมือในการเสริมข้อเรียกร้องที่เป็นประโยชน์ต่อสมาชิกสมาคมฯ
การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานระดับสากล เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ความรู้ในการบริหารเมืองให้ประสบความสำเร็จ อาทิ การวางแผนการใช้ที่ดินจากผู้เชี่ยวชาญประเทศสิงคโปร์ การจัดการศึกษาที่ได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพที่สุดในโลกจากผู้เชี่ยวชาญประเทศฟินแลนด์
“ตลอดระยะเวลา 1 ปีครึ่งที่ผมได้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ผมพยายามที่จะยกระดับสมาคมสันนิบาตฯ ทั้งในเชิงของภาพลักษณ์ต่างๆ ที่สร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกเทศบาล ตลอดจนหน่วยงานต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเห็นว่าเครือข่ายของสมาคมฯ ได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก สิ่งที่ผมตระหนักมาโดยตลอด คือความเข้มแข็งของเทศบาล ก็คือความเข้มแข็งของนายกเทศมนตรีเช่นเดียวกัน ดังนั้น หลักสูตรต่างๆ ในการพัฒนานายกเทศมนตรีจึงเป็นสิ่งที่สมาคมสันนิบาตพยายามที่จะจัดหาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับนายกเทศมนตรี เพราะผมมีความเชื่อว่า เทศบาลก็คือเมือง เมืองก็คือเทศบาล ตราบใดที่เทศบาลมีความเข้มแข็ง ประเทศชาติก็จะมีความมั่นคง” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว