นายกเมืองพัทยา ลงคำสั่งพักราชการ ปลัดเมืองพัทยา และนิติกรชำนาญการ เหตุออกใบอนุญาตเอื้อผลประโยชน์ให้เอกชนใช้ท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ข้ามอ่าวพัทยา-หัวหิน
เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2562 เมืองพัทยาได้ปิดประกาศ คำสั่งเมืองพัทยา ที่ 3151/2562 เรื่อง ให้พนักงานเมืองพัทยาพักราชการ ลงนามโดยนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา โดยมีใจความระบุว่า นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ พนักงานเมืองพัทยา ตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา (นักบริหารระดับสูง) มีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดวินัยร้ายแรงจนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1.การออกใบอนุญาตเทียบเรือสะพานท่องเที่ยวพัทยาใต้เลขที่ 25/2559 (ครั้งที่ 1) ลงวันที่ 28 พ.ย. 2559 ให้กับบริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด อำนาจหน้าที่ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ตามข้อบัญญัติเมืองพัทยา เรื่อง การจอดเรือ เทียบเรือและใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ พ.ศ.2546 และระเบียบเมืองพัทยา ว่าด้วยหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ พ.ศ.2549
โดยมีพฤติกรรมเจตนาลวงใช้จัดทำใบอนุญาตฯ เพื่ออำพรางจุดประสงค์ต้องการให้บริษัทฯ สามารถเข้าซ่อมแซมท่าเทียบเรือซี/C และได้ใช้ประโยชน์ท่าเทียบเรือ อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้อันเป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
กรณีที่ 2.การออกระเบียบเมืองพัทยา ว่าด้วยหลักเกณฑ์เงื่อนไขและวิธีการใช้ประโยชน์ที่บริเวณท่าเทียบเรือพัทยาใต้ พ.ศ.2549 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2559 ประกาศ ณ วันที่ 31 ต.ค. 2559 ใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ทำการแก้ไขระเบียบกฎหมายฉบับเดิมและจัดทำระเบียบกฎหมายฉบับใหม่เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด เพียงรายเดียว
และการออกประกาศเมืองพัทยา เรื่องการจอดเรือเพื่อรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย จำกัด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2559 ประกอบใบอนุญาตเทียบเรือสะพานท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ เลขที่ 24/2559 (ครั้งที่ 1) ลงวันที่ 28 พ.ย. 2559 ใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา เพื่อเป็นหลักฐานการเป็นเจ้าของท่า การเช่าท่า หรือได้รับความยินยอมให้ใช้ท่าให้กับ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด ได้มีโอกาสเข้าเป็นผู้มีคุณสมบัติได้รับใบอนุญาตให้เดินเรือกลประจำทางหัวหิน-พัทยาใต้ อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มีควรได้เป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
กรณีที่ 3.การออกคำสั่งเมืองพัทยาที่ 2576/2559 สั่ง ณ วันที่ 9 ธ.ค.2559 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สินของเมืองพัทยา ใช้อาจตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ถือเป็นเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ตามข้อบัญญัติเมืองพัทยา เรื่องการจัดหาประโยชน์จากทรัพย์สิน พ.ศ.2543 ในการกำหนดประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำของการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ล่วงหน้า
โดยสั่งการให้มีการแก้ไขคำสั่งตั้งคณะกรรมการจัดหาประโยชน์ แต่งตั้งตนเองเป็นประธานคณะกรรมการ กำหนดให้จัดประชุมโดยเร่งด่วนในวันที่ 13 ธ.ค. 2559 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด อันเป็นการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มีควรได้เป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
กรณีที่ 4.การอนุญาตให้ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด ใช้ประโยชน์ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวพัทยาใต้ โดยอาศัยประกาศเมืองพัทยา เรื่อง การจอดเรือเพื่อรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ที่ท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย ประกาศ ณ วันที่ 13 ธ.ค. 2559 กำหนดให้บริษัทฯ จ่ายค่าธรรมเนียมอันเกิดจากการกำหนดของคณะกรรมการจัดประโยชน์ฯ ใช้อำนาจหน้าที่ตำแหน่งปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดหาประโยชน์ฯ บิดเบือนละเว้นไม่แจ้งข้อมูลอันเป็นจริงว่า บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด จะขอเช่าพื้นที่ทั้งหมดของท่าเทียบเรือซี/C เพื่อเป็นที่ตั้งสำนักงานติดตั้งสายพานตรวจสัมภาระผู้โดยสารและให้บริการที่พักคอย
รวมทั้งการจอดเทียบเรือเฟอร์รี่ค้างคืน เพื่อให้บริการผู้โดยสารที่ไป-กลับ หัวหิน-พัทยา เพื่อให้คณะกรรมการจัดประโยชน์ทราบและกำหนดราคาค่าเช่าหรือค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ แต่กลับให้คณะกรรมการจัดหาประโยชน์พิจารณาโดยหลงผิดกำหนดค่าธรรมเนียมจอดเทียบเรือ และการละเว้นไม่จัดเก็บค่าธรรมเนียมตามอำนาจหน้าที่ ด้วยการปกปิดประกาศเมืองพัทยา เรื่อง การจอดเรือเพื่อรับส่งนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย ลงวันที่ 13 ธ.ค. 2559 ทำให้เมืองพัทยาเสียหายไม่ได้รับชำระค่าธรรมเนียมมาตั้งแต่ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด เริ่มมีการใช้งานมาโดยตลอด อีกทั้งละเว้นไม่กำหนดค่าเช่าทรัพย์สิน/ท่าเทียบเรือซี/C ของเมืองพัทยา โดยคำนึงถึงสภาพและทำเลของทรัพย์สิน
ทำให้เมืองพัทยาได้รับความเสียหายสูญเสียรายได้ที่ควรได้รับจริง เป็นการแสวงหาประโยชน์มิควรได้โดยชอบด้วยกฏหมายสำหรับตนเองหรือเพื่อประโยชน์ของ บริษัท รอยัล พาสเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด เป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ
กรณีที่ 5.การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ บริษัท รอยัล พาเสนเจอร์ ไลเนอร์ จำกัด ทำการก่อสร้างอาคารสำนักงานบนสะพานท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย บริเวณท่าซี/C โดยผิดกฎหมาย ทั้งที่รับรู้ตั้งแต่มีการเข้าชี้แจงแผนธุรกิจ และดำเนินกิจการของบริษัทฯ ที่เข้ามาชี้แจงโดยละเอียด
ให้ทั้ง นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ และนายธรรมนูญ หินคำ ทราบโดยตลอด รวมถึงวันเปิดทำการครั้งแรกของการเดินเรือเฟอร์รี่ ซึ่ง นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ได้รับเชิญเป็นผู้ร่วมเปิดงานเดินเรือครั้งแรก ปลัดเมืองพัทยา ปฏิบัติหน้าที่นายกเมืองพัทยา ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มีหน้าที่ในการออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารหรือหากไม่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารย่อมมีหน้าที่ต้องออกคำสั่งระงับรื้อถอนอาคาร ที่ไม่สามารถขออนุญาตก่อสร้างได้
การละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้เป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และมีเหตุให้พักราชการได้ตามข้อ 14 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานเมืองพัทยา เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ออกจากราชการ พ.ศ. 2559 คือ
1.นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตามคำสั่งเมืองพัทยา 2793/2562 ลงวันที่ 21 ส.ค. 2562 และคำสั่งเมืองพัทยาที่ 3049/2562 ลงวันที่ 12 ก.ย. 2562 มีกรณีถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้ อันเป็นเจตนาทุจริตต่อหน้าที่ราชการ และนายกเมืองพัทยาพิจารณาเห็นว่าหาก นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ คงอยู่ในหน้าที่ราชการต่อไปอาจเกิดความเสียหายแก่ราชการของเมืองพัทยา
2.นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ มีพฤติการณ์ที่แสดงว่าถ้าคงอยู่ในหน้าที่ราชการจะเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยขึ้นภายในเมืองพัทยา อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ประกอบมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2552 ข้อ 29 ของประกาศคณะกรรมการพนักงานเมืองพัทยา เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ.2559 และมติของคณะกรรมการเมืองพัทยา เรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการให้ออกจากราชการ พ.ศ.2559 และมติของคณะกรรมการเมืองพัทยา ในการประชุมครั้งที่ 9/2562 เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562
จึงให้นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ พักราชการเพื่อรอฟังผลการสอบสวนพิจารณา ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. 2562 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีหนังสือบันทึกข้อความ ส่วนกองการเจ้าหน้าที่ ฝ่ายวินัยและส่งเสริมคุณธรรม ที่ ชบ 52312/549 ลงวันที่ 26 ก.ย. 2562 เรื่องแจ้งคำสั่งพักราชการพนักงานเมืองพัทยา ตามคำสั่งเมืองพัทยาที่ 3152/2562 เรื่องให้พนักงานเมืองพัทยาพักราชการ โดยสั่งให้ นายธรรมนูญ หินคำ ตำแหน่งนิติกรชำนาญการ สังกัดฝ่ายวินัยและส่งเสริมคุณธรรม กองการเจ้าหน้าที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พักราชการเพื่อรอฟังผลการพิจารณา
พร้อมกันได้มีคำสั่งเมืองพัทยาที่ 3156/2562 เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา มีสาระสำคัญว่า เพื่อให้การบริการราชการของเมืองพัทยาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้แต่งตั้งให้นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ ตำแหน่งรองปลัดเมืองพัทยา (นักบริการงานท้องถิ่น ระดับสูง) รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยาด้วย มีผลตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2562 เป็นต้นไป
ด้านนายสนธยา กล่าวว่า การสอบสวนมีปัญหามาตั้งแต่คณะผู้บริหารชุดก่อน ซึ่งมีการร้องเรียนไปยัง DSI และจังหวัดชลบุรี เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการกระทำผิดวินัยร้ายแรงของ นายชนัฐพงศ์ ศรีวิเศษ ปลัดเมืองพัทยา และนายธรรมนูญ หินคำ นิติกรชำนาญการ เรื่องเกี่ยวกับการออกประกาศหรือระเบียบการใช้ท่าเรือและการจัดหาประโยชน์ในทรัพย์สินของเมืองพัทยา ที่ผ่านมาได้เชิญตัวมาเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหาและข้อเท็จจริงตามขั้นตอนกฎหมาย แต่คณะกรรมการที่ถูกแต่งตั้งให้สอบสวนไม่ได้รับความร่วมมือ รวมทั้งมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงไม่มารับทราบข้อกล่าวหา แม้กระทั่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเรียกให้เข้าพบหลายครั้งก็ไม่ได้รับความร่วมมือใดๆ ซ้ำยังพบว่ามีการข่มขู่พนักงานเมืองพัทยาที่ทำหน้าที่สอบสวนวินัย เป็นผลให้ต้องออกคำสั่งดังกล่าวขึ้นมา เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินงาน
“หากเจ้าตัวมาแสดงความสุจริตและให้ความร่วมมือก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ เพราะยังไม่มีผลสรุปของความผิดแต่กลับมีการหลบเลี่ยงอย่างจงใจ จึงได้นำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการพนักงานเมืองพัทยาเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อย กระทั่งมีมติเห็นชอบให้พักราชการบุคคลทั้ง 2 ซึ่งแม้ปัจจุบันจะถูกสั่งพักราชการก็ยังคงได้รับเงินเดือนตามปกติจนกว่าผลการสอบสวนจะถึงที่สุด” นายกเมืองพัทยา กล่าว