วันที่ 30 ตุลาคม 2562 ที่รัฐสภา นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงกรณีที่ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ สำรวจงบประมาณ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งผู้บริหาร อปท. ว่า เป็นการส่งสัญญานของกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้รับผิดชอบการบริหาร อปท. เพื่อจะจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นให้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้าหากจะจัดการเลือกตั้งขึ้นจริง กระทรวงมหาดไทย ควรคำนึงถึงปัจจัยในการเลือกตั้ง 3 ประการ คือ

  1.) งบประมาณในการจัดเลือกตั้ง มีความพร้อมมากน้อยแค่ไหน เพราะขณะนี้ พ.ร.บ. งบประมาณปี 63 ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งน่าจะมีการประกาศใช้ได้ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2563

  2.) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง อปท.ทุกฉบับ มีความพร้อมสมบูรณ์ หรือจะต้องมีการปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนหรือไม่

  3.) สถานการณ์บ้านเมือง หรือบรรยากาศทางการเมือง เอื้ออำนวยต่อการจัดการเลือกตั้ง อปท.ทั่วประเทศหรือไม่

พร้อมเผยมติที่ประชุม ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่าควรจะมีการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวกับการบริหารราชการส่วนท้องถิ่น 4 ฉบับ คือ

1. พ.ร.บ.บริหารราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งพรรคได้เสนอร่าง พ.ร.บ.ฉบับแก้ไข ต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อให้มีการแก้ไขเพิ่มเติม ในประเด็นการเพิ่มสมาชิกสภาเขต (ส.ข.)
2. พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) จะขอแก้ไขในประเด็น เขตการเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยใช้เขตอำเภอเป็นเขตเลือกตั้ง มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งได้ 1 คน 1 เสียง หรือ วันแมนวันโหวต และแก้ไขเพิ่มจำนวน รองนายก อบจ.ตามสัดส่วนประชากรในจังหวัดนั้น เช่น ประชากรไม่เกิน 750,000 คน มีรองนายก อบจ.ได้ 2 คน ประชากรไม่เกิน 1,500,000 คน มีรองนายก อบจ.ได้ 3 คน ประชากรไม่เกิน 2,000,000 คน มีรองนายก อบจ.ได้ 4 คน ประชากรเกิน 2,000,000 คนขึ้นไป มีรองนายก อบจ.ได้ 5 คน และกำหนดอายุผู้บริหาร อปท.ให้มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป
3. พ.ร.บ.องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)เสนอแก้ไข ให้มีสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) หมู่บ้านละ 2 คน กำหนดให้เป็นผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 1 คน เพื่อเป็นการส่งเสริมสิทธิสตรีให้มีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้ยุบรวม อปท.ที่มีจำนวน 2 แห่ง ในตำบลเดียวกัน ให้เป็นหนึ่งตำบลหนึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และให้ผู้บริหาร อบต.มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป
4. พ.ร.บ.เทศบาล แก้ไขให้ผู้บริหารเทศเทศบาล มีอายุ 30 ปี ขึ้นไป และใน พ.ร.บ.ทั้ง 4 ฉบับนี้ จะเพิ่มเติมในบทเฉพาะกาลไม่มีบังคับย้อนหลัง ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันประกาศใช้กฎหมายเป็นต้นไป จึงอยากเรียกร้องให้กระทรวงมหาดไทย ได้ตระหนักถึงความพร้อมในทุกๆ ด้าน ก่อนที่จะจัดการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นทั่วประเทศ และเรียกร้องให้วิปทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งวิปฝ่ายค้าน และวิปฝ่ายรัฐบาล จับมือกันผลักดันการแก้ไขกฎหมายทั้ง 4 ฉบับ ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อทันต่อการจัดการเลือกตั้งของกระทรวงมหาดไทย ที่จะเกิดขึ้นในประมาณต้นปีหน้า