วัน พฤหัสบดี ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2564
poonamtongtin

  • หน้าแรก

  • ประเด็นเด็ด

  • ข่าวดังท้องถิ่น

  • ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ท้องถิ่นวาไรตี้

  • ภาพกิจกรรม

  • รวมคลิป

poonamtongtin
  • หน้าแรก

  • ประเด็นเด็ด

  • ข่าวดังท้องถิ่น

  • ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ท้องถิ่นวาไรตี้

  • ภาพกิจกรรม

  • รวมคลิป

TITLE
Caption
  • ประเด็นเด็ด

ชวนท้องถิ่นแฉ “ขบวนการสูบเลือด อปท.” ผ่านการจัดฝึกอบรม

08 ธ.ค., 20 681 แชร์
  • ชวนท้องถิ่นแฉ “ขบวนการสูบเลือด อปท.” ผ่านการจัดฝึกอบรม

      กรณี นายพิพัฒน์ วรสิทธิดำรง นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย เผยแพร่ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ได้รับเรื่องร้องเรียน ปน ร้องทุกข์จาก นายกอปท. & ปลัดอปท. จำนวนมากว่า ปัจจุบัน มหาดไทย กับ กรมสถ. ออกระเบียบ และหลักเกณฑ์หลายเรื่องให้อปท.ถือปฏิบัติ แต่ไม่จัดประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจ ทำให้เป็นช่องว่างให้ คนของมหาดไทย ใช้เป็นแนวทางทำมาหากินกับคนท้องถิ่น โดยร่วมมือกับสถาบันฝึกอบรมต่างๆ ทั้งของรัฐและเอกชน จัดโครงการอบรมในราคาแพง โดยการล็อคตัวขรก.ในสังกัดของมหาดไทยที่รับผิดชอบเรื่องนั้นๆ ไว้ มิให้หน่วยงานอื่นได้เชิญไปบรรยายได้ อันเป็นกระทำหรือมีพฤติกรรมเป็นลักษณะผลประโยชน์ทับซ้อน อีกทั้ง หลายจังหวัดยังร่วมมือด้วยโดยการขอความร่วมมือแกมบังคับให้อปท.ส่งข้าราชการในสังกัดเข้าอบรมแห่งละ 3-5 คน เพื่อกำหนดเป้าโดยมีการแบ่งผลประโยชน์ระหว่างกัน

      …เรื่องนี้ ผมกำลังร่างหนังสือจะส่งไปยังคณะกรรมาธิการ ป.ป.ช.ของสภาผู้แทนให้ช่วยตรวจสอบความไม่ชอบมาพากลในเรื่องนี้เร็วๆ นี้ครับ ท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมส่งมาให้ด้วยนะครับ…”

      นายกสมาคมข้าราชการส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับนิตยสารผู้นำท้องถิ่น ออนไลน์ว่า ตามกฎหมายแล้ว อำนาจในการพัฒนาและส่งเสริมองค์ความรู้ให้บุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน้าที่โดยตรงของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.)  โดยกรม สถ.ได้จัดตั้งสถาบันพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ซึ่งตั้งอยู่ที่ จ.ปทุมธานี เป็นการอบรมให้ความรู้ตามสายงาน ตามตำแหน่ง ซึ่งแต่ละตำแหน่งใช้ระยะเวลา 2-5 สัปดาห์ ทั้งนี้ เนื่องจาก สถ.มีหน้าที่เสนอร่างระเบียบหรือกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือปลัดกระทรวงมหาดไทย ประกาศใช้เป็นแนวทางปฏิบัติขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกันทั่วประเทศ

       ความสับสนจากแนวทางปฏิบัติที่ไม่เคยถูกชี้แจง

      ที่ผ่านมาเมื่อ สถ.ออกระเบียบหรือหลักเกณฑ์ใดมาแล้ว ไม่เคยเชิญ อปท. หรือผู้แทนสำนักงานส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละจังหวัดไปประชุมชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจในระเบียบหรือหลักเกณฑ์นั้นๆ ร่วมกัน สร้างความสับสนให้กับท้องถิ่น เนื่องจากแนวทางปฏิบัติในแต่ละเรื่องบางครั้งออกมาแล้วมีการแก้ไขหลายรอบ

      ยกตัวอย่างเช่น ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยวิธีการงบประมาณฯ ซึ่งมีการกำหนดหลักเกณฑ์ประกาศใช้ทุกปี หรือในด้านการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ก็มีการแก้ไขระเบียบหลายครั้งและมีการออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติมอีกหลายครั้ง ส่วนนี้สร้างภาระให้กับอปท.ทั้งสิ้น

      “สถ.ควรเป็นผู้เชิญตัวแทนของจังหวัดไปประชุมชี้แจงเพื่อให้เข้าใจว่าหลักเกณฑ์และระเบียบที่ออกมา มีการแก้ไขอะไรบ้าง เจตนารมณ์ในการแก้ไขเป็นอย่างไร แล้วจึงมอบให้ตัวแทนของแต่ละจังหวัด นำมาประชุมชี้แจงให้ อปท.ในแต่ละจังหวัดได้มีความเข้าใจร่วมกันอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นแนวทางที่กระทรวง ทบวง กรมอื่นยึดถือปฏิบัติกัน โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นหน้าที่โดยตรงของ สถ. ที่จะสนับสนุนส่งเสริมให้ อปท.ทำงานบริการประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ”

      ช่องโหว่ของกฎหมาย

      เมื่อ สถ.ไม่ได้ดำเนินการในส่วนนี้ ทำให้ท้องถิ่น 7,850 แห่งทั่วประเทศ เกิดความสับสน เป็นช่องว่างให้สถาบันฝึกอบรมต่างๆ โดยเฉพาะสถาบันฝึกอบรมของรัฐ ที่เป็นสถาบันการศึกษา จัดอบรมสัมมนาเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้โดยที่ไม่มีองค์ความรู้ แต่ใช้วิธีติดต่อให้บุคลากรในสังกัดกระทรวงมหาดไทยและสถ.ที่มีหน้าที่รับผิดชอบระเบียบหรือหลักเกณฑ์เหล่านั้นมาเป็นวิทยากรให้ และจัดการฝึกอบรมโดยอาศัยช่องว่างของระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการฝึกอบรมฯ ที่ให้สถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานของรัฐจัดอบรมให้กับบุคลากรของ อปท.ได้ โดยไม่กำหนดอัตราขั้นสูงในการเรียกเก็บค่าลงทะเบียนไว้ เท่าที่ทราบมาราคาค่อนข้างสูง หรือแพงมาก เช่น อบรม 2 วัน 3,900 บาท 3 วัน 4,900 บาท ซึ่งบุคลากรของท้องถิ่นในทั่วประเทศมีจำนวนมาก และการจัดฝึกอบรมดังกล่าว ก็มีเกือบทุกเรื่อง ไม่ว่าจะงานบุคคล การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่น หรือการจัดทำงบประมาณรายจ่าย ปีๆหนึ่งท้องถิ่นต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับการจัดอบรมแบบนี้รวมกันนับพันล้านบาท ตรงนี้จึงเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความน่าสงสัยถึงความโปร่งใสในการดำเนินการ

      ความอึดอัดใจของท้องถิ่น

      นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า มีบางจังหวัดที่ออกหนังสือเอง โดยขอให้ อปท.ส่งบุคลากรเข้าอบรมแห่งละ 2-5 คน ประสานผ่านท้องถิ่นอำเภอ โดยให้ท้องถิ่นอำเภอโทรตาม อปท. เพื่อขอให้ส่งรายชื่อให้ครบ ส่วนใหญ่จะโทรหานายกอปท. ด้วยความเกรงใจก็ต้องส่งคนไป ท้องถิ่นบางส่วนกลัวจะมีปัญหาติดขัดเมื่อถึงเวลาต้องส่งเอกสารขออนุมัติขออนุญาตอำเภอหรือจังหวัด ก็จำใจต้องส่งคนไปตามที่ต้องการ ปัญหาดังกล่าวคนท้องถิ่นทำได้เพียงพูดกันในสื่อออนไลน์ หรือเป็นการคุยกันเฉพาะกลุ่ม ไม่มีใครกล้าพูดออกสื่อหลัก

      ทางแก้ปัญหาที่ถูกเพิกเฉย

      ในสมัย “นายจรินทร์ จักกะพาก” เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เคยมีนโยบายสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการในสังกัด เดินสายจัดอบรมเอง ยกเว้นกรณีที่จังหวัดขอมา เนื่องจากเคยมีข่าวเจ้าหน้าที่ของ สถ.ที่รับผิดชอบในแต่ละเรื่อง ไปร่วมกับหน่วยจัดอบรม จัดอบรมกันเองโดยอาศัยชื่อของมหาวิทยาลัย แล้วแบ่งผลประโยชน์กัน ซึ่งขณะนั้น นโยบายมีความเข้มงวด ข้าราชการที่จะไปเป็นวิทยากรอบรม แม้แต่ไปช่วงเสาร์อาทิตย์ ก็ต้องขอผ่านอธิบดีโดยตรง

      สมาคมฯ เคยเสนอไปว่า สถ.มีหน้าที่โดยตรงในการส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาบุคลากรท้องถิ่น ควรเป็นผู้ที่ขอเงินสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ ในการจัดอบรมให้ความรู้ต่างๆ ให้กับบุคลากรของอปท. ให้ทั่วถึง อปท.มีหน้าที่ส่งบุคลากรเข้าฝึกอบรมโดยไม่เสียค่าลงทะเบียน

      ทุกวันนี้บุคลากรท้องถิ่นได้รับการพัฒนาไม่เท่าเทียมกันในตำแหน่งเดียวกัน บางแห่งมีงบก็ส่ง บางแห่งไม่มีงบหรือมีงบน้อยก็ไม่ได้ส่ง ซึ่งสถ.ก็ไม่เคยรับหลักการ

      ชวนท้องถิ่นร่วมผลักดัน

      ปัญหาคือเมื่อให้ส่งหลักฐาน หรือยืนยันชื่อของบุคคลที่ได้รับผลกระทบ คนท้องถิ่นมักจะกลัวมีปัญหา เพราะเมื่อมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ต้องมีการเชิญผู้ร้องไปให้ถ้อยคำ หากส่งไปเพียงหลักฐานไม่มีการส่งชื่อหรือการเข้าให้ถ้อยคำ น้ำหนักของเรื่องก็จะเบา

      “มีหลายเรื่องที่คนท้องถิ่นรับรู้ว่าเป็นปัญหา แต่เมื่อขอให้ร่วมลงชื่อเพื่อร้องเรียน ขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ไขปัญหา มักจะมีผู้แสดงตัวน้อย หรือไม่มีเลย ถ้าอปท.ไม่ช่วยกันในการผลักดันแก้ไข ปัญหาเหล่านี้ก็จะอยู่ต่อไปแบบนี้ ไม่เกิดการแก้ไข อยากให้ อปท. ออกมาแสดงพลังร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะประเด็นนี้เท่านั้น แต่รวมถึงประเด็นอื่นที่มองว่าเป็นปัญหาด้วย”

     

    ฃ

     

     

    Facebook    Twitter    Line

    • ประเด็นเด็ด

    บทความก่อนหน้า

    กกต.ประกาศแบ่งเขตเลือกตั้งเทศบาลเพิ่ม 12 จังหวัด

    วันที่ 4 ธันวาคม 2563 ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แบ่งเขตเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลเพิ่มใน 12 จังหวัด ลงนามโดยนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกกต. อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการก
    บทความต่อไป

    เปิดรับสมัครแล้ว!อปท.ที่มีการบริหารจัดการที่ดี ปี 64 ชิงรางวัล 147 ล้านบาท

    วันที่ 9 ธันวาคม 2563 นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น มีหนังสือแจ้งทุกจังหวัด เรื่อง การรับสมัครคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนเป็นรางวัลจำนวน 14

    TITLE
    Caption
    โฆษณา

    บทความแนะนำ

    ศาลสั่ง “เทพไท” พ้น ส.ส. คดีทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีฯ

    วันที่ 27 มกราคม 2564 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้สมาชิกภาพส.ส.ของนายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(4) มาตรา 96(2) จากเหตุศาล จ.นครศรีธรรมราช มีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 2 ปี ไม่รอก
    27/01/21
    141
    แชร์

    ครม.เห็นชอบชดเชย อปท. ภาษีที่ดินหาย

    ครม.เตรียมชดเชยรายได้ท้องถิ่นหาย 4 หมื่นล้าน หลังเคาะมาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90 เปอร์เซ็นต์ต่อในปี 2564
    26/01/21
    169
    แชร์

    เช็กคุณสมบัติผู้รับ “เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” ป้องกันถูกเรียกคืน

    เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเงินสำหรับใช้จ่ายดำรงชีพที่ผู้สูงอายุได้รับจากรัฐบาล เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยจะเปิดรับผู้สูงอายุรายใหม่ในทุกๆ ปี การให้เงินช่วยเหลือเป็นแบบขั้นบันได ตามระดับอายุ คือ อายุ 60 – 69 ปี ได้รับเบี้ยยังชีพ 600 บา
    26/01/21
    78
    แชร์

    สถ.เปิดไทม์ไลน์เลือกตั้ง “เทศบาล”

    กองการเลือกตั้งท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยไทม์ไลน์ แผนการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี หลังคณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้จัดการเลือกตั้งในระดับเทศบาลในวันอาทิตย์ที่ 28 มี.ค.64 เพื่อเตรียมความพร้อมทั้งผู้รับสมัครเลือก
    26/01/21
    572
    แชร์

    "บิ๊กแจ๊ส" ถูกกล่าวหา หาเสียงเกินอำนาจ อบจ. ลุ้น กกต.วินิจฉัย

    วันที่ 25 มกราคม 2564 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส พร้อมด้วย นายอดิสร เพียงเกษ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยมี น.ส.สุชัญญา วิมุกตายน
    25/01/21
    95
    แชร์

    อ.นิติศาสตร์ชี้ช่อง ยายไม่ต้องคืนเบี้ยคนชรา หากรับไว้โดยสุจริต-ใช้จ่ายหมดแล้ว

    จากกรณี ยายวัย 89 ปี ถูกกรมบัญชีกลางมีหนังสือแจ้งเรียกคืนเงินค่าเบี้ยผู้สูงอายุรวมดอกเบี้ยคืนกว่า 84,000 บาท หลังได้รับมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากตรวจสอบพบว่าขาดคุณสมบัติ เพราะได้รับเงินบำนาญจากลูกชายซึ่งเป็นทหารและเสียชีวิตในหน้าที่แล้วนั้น
    25/01/21
    72
    แชร์

    poonamtongtin

    นิตยสารผู้นำท้องถิ่นออนไลน์ รวมข่าวสารอัพเดทของคนท้องถิ่น

    ลิงค์เพิ่มเติม

    หมวดหมู่บทความ
    ติดต่อเรา
    Sitemap

    ติดต่อเรา

    กองบรรณาธิการนิตยสารผู้นำท้องถิ่น
    admin@poonamtongtin.com

    หน้าหลัก
    บทความ
    ติดต่อเรา
    อื่นๆ