กระทรวงมหาดไทยเปิดรายชื่อ 135 หมู่บ้านนำร่องเสพพืชกระท่อมไม่ผิดกฎหมาย จาก 10 จังหวัด 10 อำเภอ 19 ตำบล 1 เทศบาล ตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงมหาดไทย (ศอ.ปส.มท.) มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง คำสั่งและแนวทางการรองรับพื้นที่ที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิดตามมาตรา 58/2 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7 ) พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 9 กันยายน 2563 ส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัดนำร่อง 10 จังหวัดระบุว่า สำนักงาน ป.ป.ส.ได้ส่งคำสั่งศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติที่ 19/2563 ลงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 เป็นแนวทางการรองรับพื้นที่ที่ทำการเสพพืชกระท่อมได้โดยไม่เป็นความผิดฯ พร้อมรายชื่อหมู่บ้านนำร่อง 135 หมู่บ้าน/ชุมชน
โดยกระทรวงมหาดไทยขอให้ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัด (ศอ.ปส.จ.) ประสานงานร่วมกับศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอ (ศอ.ปส.อ.) ให้ตั้งคณะกรรมการพืชกระท่อมตำบล และหมู่บ้านตามรายชื่อหมู่บ้านเพื่อให้เป็นไปตามองค์ประกอบที่กำหนด
สำหรับรายชื่อทั้ง 135 หมู่บ้าน/ชุมชนประกอบด้วย 10 จังหวัด 10 อำเภอ 19 ตำบล 1 เทศบาล 110 หมู่บ้าน 25 ชุมชน ภาคกลางประกอบด้วย บ้านคลองหนึ่ง ม.10 จ.นนทบุรี ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี และ ม.12 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ภาคใต้ ประกอบด้วย 8 หมู่บ้าน ใน ต.คลองเส อ.ถ้ำพรรณราย จ.นครศรีธรรมราช, 9 หมู่บ้านใน ต.เขาดิน อ.เขาพนม จ.กระบี่ , 7 หมู่บ้านใน ต.ลำภี อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา, 65 หมู่บ้านใน 10 ตำบล อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี, 5 หมู่บ้านใน ต.ละอุ่นเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง, บ้านดอนไทรงาม ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร, 4 หมู่บ้านใน ต.เตา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง, 9 หมู่บ้านใน จ.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง
สำหรับเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ เนื่องจากผลการวิจัยพบว่าสารสกัดจากกัญชาและพืชกระท่อมมีประโยชน์ทางการแพทย์เป็นอย่างมาก ในหลายประเทศทั่วโลกได้แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมาย เพื่อเปิดโอกาสให้มีการอนุญาตให้ประชาชนใช้กัญชาและ พืชกระท่อมเพื่อประโยชน์ในการรักษาโรคและประโยชน์ในทางการแพทย์ ดังนั้น จึงมีการแก้ไขพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษฯ เพื่อเป็นการรับรองและคุ้มครองสิทธิของผู้ป่วยที่จะได้รับและใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ ในการรักษาและพัฒนาทางการแพทย์ ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้ได้รับอนุญาต เพื่อให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ ให้ทำได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และเพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านยาของประเทศ และป้องกันไม่ให้เกิดการผูกขาดทางด้านยา