เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เพจเฟซบุ๊ก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้โพสต์ข้อความที่ระบุว่าเป็นของนายนทนงศักดิ์ ทวีทอง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สุราษฎร์ธานี มีข้อความว่า ความในใจนายก อบจ.ที่ทำเพื่อประชาชน…

  วันนี้ ท้องถิ่น อบจ. เริ่มถูกสื่อเล่นงาน หน่วยตรวจสอบเข้าตรวจสอบ ซึ่งก่อนหน้านี้ ในช่วงวิกฤติ ท้องถิ่นถูกมอบหมาย ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ช่วยจัดหา สิ่งของต่างๆ ที่มีความต้องการใช้มาก

  ทั้งอุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ปัญหาของเหล่านี้ไม่มีในท้องตลาด ราคาสูงขึ้นมาเป็นเท่าตัวหรือหลายเท่าตัว ความต้องการพื้นฐาน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ที่ประชาชนต้องใช้ ขาดตลาด เครื่องมือวัดไข้ อินฟาเรด เทอร์โมร์มิเตอร์ มีความต้องการ ทั้งสถานพยาบาล เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งแทบทุกหน่วยงาน ทั้งภาคราชการ และเอกชน ต้องใช้ วัดไข้ คนที่เข้ามาสำนักงาน ธนาคาร บริษัท ร้านค้า สรรพสินค้า ตลาด แม้กระทั่งงานศพ อีกทั้ง วัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่ขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะ วัสดุพื้นฐาน เช่น หน้ากาก N95 ชุด ppe หรือ cover all ,face shield แม้กระทั่งถุงมือ หมวกตาข่าย ฯลฯ

  ทราบว่าเหมือนกับมีการสั่งห้ามไม่ให้มีการขอบริจาค แต่ก็เห็นจากสื่อต่างๆ มีการขอบริจาคสิ่งของเหล่านี้ จากสื่อทุกวัน จากโรงพยาบาลต่างๆ จากหน่วยบริการประชาขน

  ท้องถิ่น ได้รับการยกเว้นในเรื่องของระเบียบ ในการจัดหาวัสดุ อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ เหล่านี้ จากกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันที่ 17-21-26 มีนาคม 63 รวมทั้งหนังสือจากกรรมการวินิจฉัยการจัดซื้อจัดจ้างลงวันที่ 27 มีนาคม 63 เช่นกัน และมีหนังสือของกระทรวงมหาดไทยลงวันที่ 9 เมษายน 63 อีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจกับท้องถิ่นว่าสามารถดำเนินการจัดหาสิ่งของเหล่านี้ได้ โดยใช้เงินสะสม เงินสำรองจ่าย หรือปรับลดงบประมาณประจำปีของท้องถิ่นรายการที่ไม่ใช้หรือเหลือจ่าย

  จากความต้องการสิ่งของเหล่านั้น ทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งจัดหาเพื่อให้ใช้ทันเหตุการณ์ ราคากลาง สิ่งของเหล่านั้นถูกกำหนด ราคาสินค้า ณ วันนั้น และสิ่งของต่างๆ ไม่สามารถจัดส่งได้ทันที ต้องรอของ ที่อาจต้องผลิตหรือนำเข้า ต้องใช้เวลา เป็น 10 วันหรือ 15 วัน

  ไม่มีใครรู้ว่า เหตุการณ์มันจะดีขึ้นหรือเลวร้าย ไม่มีใครคาดได้ มีการสั่งให้เตรียมโรงพยาบาลสนาม เตรียมที่กักกัน

  รัฐบาลประกาศใช้ พรก. ฉุกเฉิน

  แต่โชคดีที่ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่มีวินัย เชื่อในมาตรการต่างๆของรัฐบาล ประกอบกับความจริงจังของ ด่านหน้าคือ หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่

  ขณะที่มีการปิดกรุงเทพ ทำให้คนหลั่งไหลไปต่างจังหวัด

  บทบาทหน้าที่ที่สำคัญในการคัดกรองคนจริงๆ มาตกที่ อสม. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ทั้ง ทหาร ตำรวจ

  ความขาดแคลน หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ล้างมือ อินฟาเรด เทอร์โมมิเตอร์ยิ่งขาดแคลนหนัก ราคาก็ถีบตัวสูงขึ้นไป

  พวกเราท้องถิ่นมีความจำเป็นต้องจัดหาซื้อมาเพื่อ ป้องกันชีวิตคนในท้องถิ่นของเขา

  ราคาเท่าไรก็ต้องซื้อถ้าจะเทียบกับค่าของชีวิตคน

  เราจะเอาราคาตอนนั้น มาเทียบกับตอนนี้ไม่ได้

  เราจะเอา ปริมาณจำนวนที่ต้องการขณะนั้น มาเทียบกับเหตุการณ์ตอนสงบแล้วไม่ได้

  ถามว่าทำไมไม่เทียบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี ที่ขาดแคลนสิ่งเหล่านี้ แม้กระทั่ง สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ที่เหตุการณ์สงบแล้ว ยังเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ แม้กระทั่งเตียงผู้ป่วยแทบจะไม่มีแล้วขนาดนี้

  สหรัฐอเมริกา หน้ากากผ้า ขายอันละ 12 เหรียญ แทบไม่มีของ

  หรือเราจะรอให้คนตายกันก่อน

  วันนี้คนที่มีกรรมคือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ถูกสื่อ ถูกตรวจสอบเหมือนกับโจรผู้ร้าย

  อยากจะถามเหมือนกันว่า ทำไมรัฐบาลไม่แก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้เอง ครั้งแล้วครั้งเล่า ในการเกิดภัยพิบัติ สาธารณภัย ท้องถิ่นกลายเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด ถูกเหมาว่าทุจริต โกง ..

  @นายทนงศักดิ์ ทวีทอง นายก อบจ สุราษฎร์ธานี@