นายกเมืองพัทยา เผยสาเหตุก่อสร้างโครงการฯ ล่าช้า จากหลายปัจจัย พร้อมแจงสนามกีฬาฯ 20,000 ที่นั่ง รุดหน้าเร็วกว่าแผนที่กำหนด 4.72% คาดปลายปี 2568 แล้วเสร็จ หลังดำเนินงานมานานกว่า 16 ปี
โครงการศูนย์กีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก เป็นโครงการที่เมืองพัทยาได้เสนอขอจัดสรรงบประมาณจากภาครัฐตั้งแต่ปี 2551 จำนวน 774 ล้านบาท เพื่อจัดสร้างสนามกีฬาขนาดมาตรฐานบนพื้นที่ 371 ไร่ ในพื้นที่ หมู่ 4 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาและส่งเสริมกิจกรรมสันทนาการในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยพื้นที่ภายในโครงการ ประกอบด้วย สนามฟุตบอลพร้อมอัฒจันทร์ขนาด 20,000 ที่นั่ง ลู่วิ่งมาตรฐาน รวมทั้งยังมีแผนก่อสร้างสระว่ายน้ำพร้อมโครงหลังคา ระยะทาง 50 เมตร จำนวน 8 ลู่ สนามเทนนิส สนามบาสเกตบอล และสนามฝึกซ้อมอีกกว่า 10 สนาม
ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่ดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ แต่เกิดความชำรุดเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากถูกทิ้งไว้ไร้การดูแล จนเสื่อมโทรมอย่างหนัก หยุดก่อสร้างไปหลายปี เพราะมีอุปสรรคในการก่อสร้าง โดยเฉพาะเรื่องการว่าจ้างเอกชนเข้าดำเนินการจนหลายครั้งมีการทิ้งสัญญาจ้าง และปล่อยให้โครงการรกร้างจนได้รับความเสียหาย เหลือเพียงสนามฟุตบอล 20,000 ที่นั่ง

โดยระหว่างก่อสร้างระยะที่ 1 ได้เกิดปัญหาในเรื่องของการรับจ้างจากภาคเอกชน จนทำให้งานสร้างสนามฟุตบอลและอัฒจันทร์ล่าช้า ส่วนยิมเนเซียมก่อสร้างเสร็จเปิดใช้แข่งขันกีฬาในร่มปกติ บางครั้งยังใช้เป็นศูนย์แสดงสินค้า ต่อมาหลังรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 พบมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกองทัพภาคที่ 1 เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลพัฒนาที่ 1 เข้ามาเร่งดำเนินการก่อสร้างในระยะที่ 2 เป็นพื้นที่โครงสร้างของที่นั่งฝั่งอัฒจันทร์ฝั่งประธาน ของสนามฟุตบอล ตามมาตรฐานแบบของการกีฬาแห่งประเทศไทย รวมทั้งในส่วนของโครงการหลังคา ทหารขนทั้งกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องมือจำนวนมากเข้ามาลุยก่อสร้างอย่างคึกคักจนมีความคืบหน้ากว่าเดิม
หลังจากทหารกองพลพัฒนาที่ 1 เข้ามาก่อสร้างระยะที่ 2 ไปได้ประมาณ 3 ปีเศษ ทางคณะสมาชิกสภาเมืองพัทยา พร้อมด้วยนายทหารได้พาคณะสื่อมวลชน ร่วมเข้าตรวจสอบสภาพพื้นที่ก่อสร้างอีกครั้ง เนื่องจากมีประชาชนสอบถามถึงความคืบหน้าโครงการฯ แม้จะเสร็จเป็นรูปเป็นร่างไป 70% อัฒจันทร์เสร็จ 2 ด้าน ขึ้นโครงหลังคาฝั่งประธานอาคารสำนักงาน เสาไฟใหญ่ทั้ง 4 มุม ฯลฯ แต่ก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์แบบ จึงกลายเป็นว่าตั้งแต่เริ่มโครงการฯ ปี 2551–2560 รวมเวลา 9 ปี สนามกีฬาฟุตบอลและลู่วิ่งก็ยังไม่สามารถเข้าไปใช้ทำประโยชน์ในการแข่งขันได้
สุดท้ายเรื่องเงียบหายไปอีกครั้ง กระทั่งในปี 2564 ทางเมืองพัทยายังคงยืนยันว่า สนามฟุตบอลพร้อมอัฒจันทร์จะเสร็จแน่นอน ระบุโครงสร้างหลักทั้งอัฒจันทร์และอื่น ๆ ดำเนินการเสร็จเกือบหมดแล้วจะเหลือเพียงรายละเอียดปลีกย่อย มุงหลังคาและการตกแต่งเท่านั้น โดยให้เหตุผลว่าที่ล่าช้าไปบ้างมีความจำเป็นต้องขยายเวลาการก่อสร้าง เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องขุดเจาะฝังเสาเข็มฐานรากซึ่งเป็นพื้นหินแกรนิตยากต่อการขุดเจาะ จึงต้องลงนามว่าจ้างทหารช่างมาจัดทำโครงการในงบประมาณ 398 ล้านบาทจนแล้วเสร็จ

หลังจากนั้นได้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จนทำให้แรงงานขาดหายไป และนำมาซึ่งการละทิ้งงานของผู้รับเหมาหลังเบิกงบประมาณไปแล้วจำนวน 12 งวด เป็นเงิน 143.2 ล้านบาท ซึ่งเมืองพัทยาได้ยึดเงินประกันจำนวน 50 ล้านบาท แต่ทางผู้รับเหมามียอดติดค้างอยู่ 80 กว่าล้านบาท จึงมอบหมายให้สำนักงานกฎหมายแจ้งความดำเนินคดีนั้น
ในเวลาต่อมา ความคืบหน้าการก่อสร้างสนามฟุตบอลขนาด 20,000 ที่นั่ง ในพื้นที่สนามกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก สภาเมืองพัทยาได้อนุมัติงบประมาณอีกจำนวน 336 ล้านบาท และเมืองพัทยาได้ผู้รับจ้างเข้ามาประมูลงานตามระบบการ Bidding เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดำเนินการก่อสร้างทันทีในปี 2568 เพื่อให้เป็นไปตามแผนก่อสร้างที่จะใช้ระยะเวลา 820 วัน ซึ่งจะแล้วเสร็จภายในเฟสที่ 3 ส่วนงบประมาณที่จะมีการขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลจะอยู่ในเฟสที่ 4 และจะเป็นงบผูกพัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2568 นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยาเปิดเผยถึงความคืบหน้าในการก่อสร้างสนามฟุตบอลเมืองพัทยา ณ สนามกีฬาภาคตะวันออก ขนาด 2 หมื่นที่นั่งว่า สำหรับในระยะที่ 3 นี้ ได้เริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2566 ซึ่งมีการแบ่งเป็น 6 งวดงาน ในงบประมาณ 377 ล้านบาท โดยมีข้อสัญญากำหนดให้ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้าง 820 วัน ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันได้ทำการก่อสร้างมาแล้วรวม 476 วัน ซึ่งต้องมีความคืบหน้าตามแผนงาน 39.37% แต่ปรากฏว่างานก่อสร้างที่ดำเนินการอยู่มีความรุดหน้ากว่าที่กำหนดไว้ถึง 44.09% ถือว่าเร็วกว่าแผนที่กำหนด 4.72% หรือหากคิดเป็นวันถือว่าเร็วกว่าแผน 38.7 วัน
กรณีนี้เหตุเพราะเมืองพัทยาเกิดความกังวลว่าหากเข้าสู่ช่วงฤดูฝนที่จะมาถึงอาจส่งผลกระทบทำให้งานล่าช้าไปกว่าที่กำหนด จึงได้สั่งการให้ผู้รับจ้างเร่งงานในช่วงนี้ เพื่อจะชดเชยหากต้องมีการหยุดงานหรือรับผลกระทบในช่วงฤดูฝนที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นจึงถือว่าปัจจุบันงานเป็นไปตามแผนที่กำหนด และยังจะมีการผลักดันให้แล้วเสร็จภายในระยะที่กำหนดเอาไว้ด้วย ซึ่งปัจจุบันที่ผ่านมา 400 กว่าวันนั้นยังไม่มีเหตุการณ์ใด ๆ ที่ส่งผลกระทบ หรือทำให้เป็นปัญหาในการก่อสร้าง ทุกอย่างจึงราบรื่นด้วยดี

ทั้งนี้ เมืองพัทยาได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นโครงการที่ประชาชนให้ความสนใจและติดตามมาโดยตลอด และยังเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณผูกพันจำนวนมากที่ผ่านระยะเวลามานานกว่า 16 ปี แต่ยังไม่สามารถเปิดใช้งานได้ นอกจากนั้น ยังจะได้นำโครงการดังกล่าวบรรจุในวาระการประชุมของการประชุมหัวหน้าส่วนราชการทุกครั้ง เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งหากก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ช่วงปลายปี 2568 รวมระยะเวลาก่อสร้างทั้งหมดร่วม 17 ปี