จากกรณีปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ล่าสุด นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมที่จะมีการเชิญประชุมนายกองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เพื่อกำหนดแผนการใช้ยางพาราทำถนนในเขตพื้นที่ของจังหวัด และในเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ดยได้มีการกำหนดแผนการใช้ยางพาราสำหรับทำถนนนั้นมี 2 ประเภท ได้แก่
1) พาราแอสฟัลติก และ 2) พาราซอยซีเมนต์ โดยส่วนใหญ่จะเน้นทำพาราซอยซีเมนต์ เพราะเป็นถนนในหมู่บ้าน ส่วนพาราแอสฟัลติก คือถนนใหญ่ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของกระทรวงคมนาคม ขณะนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการขอแบบแปลนกลาง (แบบประเมินราคากลาง) คาดว่าแบบรับรองโครงสร้างถนนพาราแอสฟัลติกจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้
นอกจากนี้กระทรวงมหาดไทย ได้ออกหนังสือสั่งการไปยัง อปท.ให้ นายก อปท.สามารถใช้งบประมาณสะสมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำมาทำถนนได้
ขณะเดียวกัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตั้งศูนย์อำนวยการติดตามโครงการทำถนนและยางพารา ควบคู่กับกระทรวงมหาดไทย เพื่อบูรณาการทำงานสนับสนุนและช่วยเหลือกัน และยืนยันว่าโครงการนี้ สามารถดูดซับปริมาณยางพาราที่มีอยู่จำนวนมากให้หมดลงไปได้ อีกทั้งได้รับการรายงานว่า จังหวัดเชียงใหม่ มีน้ำยางพาราจำนวน 3,000 ตัน ทั้งนี้ อปท. 65 องค์กร ได้รับรายงานจากผู้ว่าฯ ว่า น้ำยางที่มีอยู่ในขณะนี้ไม่พอต่อความต้องการ จึงได้แนะให้นำน้ำยางจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง มาใช้ได้
นายกฤษฎา กล่าวต่อว่า “กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สนับสนุนให้ซื้อน้ำยางจากสถาบันเกษตรกรโดยตรง เนื่องจากขณะนี้ชาวสวนยางกำลังได้รับความเดือดร้อนและเพื่อเป็นการดูดซับ และรัฐบาลพยายามดูแลให้เกษตรกรสามารถดำรงชีพอยู่ได้และมีรายได้มากขึ้น อีกทั้งกระทรวงเกษตรฯ จะเชิญผู้ประกอบการแปรรูปทำยางล้อรถยนต์ ทั้งในและต่างประเทศ มาร่วมหารือกัน ซึ่งในส่วนของการจำหน่ายต่างประเทศนั้น จะขอความร่วมมือให้รับซื้อน้ำยางพารามากขึ้นกว่าปกติ”
18 ธันวาคม 2561