พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับ 2) พ.ศ. 2562 ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 และจะมีผลบังคับใช้เมื่อพ้น 180 วัน นับแต่วันที่ลงประกาศ ซึ่งก็คือวันที่ 27 ตุลาคม 2562 พ.ร.บ. ดังกล่าวปรับปรุงมาจาก พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ. 2535 เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งลดปัญหาและอุปสรรคในการประกิจการโรงงานด้วย โดยมีสาระสำคัญคือ การแก้ไขขอบเขตของคำว่า “โรงงาน” เป็นต้องมีเครื่องจักรกำลังรวมตั้งแต่ 50 แรงม้าขึ้นไป (เดิม 5 แรงม้า) หรือมีคนงานตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป (เดิม 7 คน) ส่งผลให้โรงงานขนาดเล็ก หรือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) กว่า 70,000 ราย ไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง.4) ทำให้มีความสะดวกและคล่องตัวในการดำเนินกิจการมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมี พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับ 3) พ.ศ. 2562 ที่ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันเดียวกัน โดยมีผลบังคับใช้ทันที พ.ร.บ. ฉบับนี้ ดำเนินการตามแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และแผนปฏิบัติการกำหนดขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่ อปท. ซึ่งกำหนดให้มีการถ่ายโอนภารกิจในการเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับโรงงานจำพวกที่ 1 และจำพวกที่ 2 ให้แก่ อปท. จึงมีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยโรงงาน เพื่อให้ อปท. สามารถดำเนินการในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้ รวมถึงสามารถจัดเก็บรายได้เข้า อปท. เพื่อบำรุงท้องถิ่นจากภารกิจถ่ายโอนที่กำหนดขึ้น
สาระสำคัญของพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับ 3) พ.ศ. 2562 คือ การให้ความหมายของขอบเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หมายถึง เทศบาล องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอื่นที่มีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่รวมถึง องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยให้อำนาจรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่น หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่น เป็นเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจและความรับผิดชอบในส่วนที่เกี่ยวกับโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 ในส่วนของ อบต. ให้ดำเนินการใน อบต. ที่มีความพร้อมก่อน
เจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นที่มีอำนาจในข้างต้น จะอยู่ภายใต้การกับกำดูแลของปลัดกระทรวงฯ และเจ้าหน้าที่ที่แต่งตั้งจากข้าราชการในกระทรวงอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้ยกเลิกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีสำหรับโรงงานจำพวกที่ 2 ทั้งหมด ยกเว้นกรณีมีเหตุอันควรจากภัยธรรมชาติ หรือวิกฤติเศรษฐกิจ ทั้งนี้ รายได้ที่เก็บจากค่าธรรมเนียมรายปีจากผู้ประกอบการให้ตกเป็นรายได้ของ อปท.
การถ่ายโอนภารกิจการดูแลโรงงานจำพวกที่ 1 และ 2 สู่การดูแลของ อปท. ครั้งนี้ คาดว่าจะทำให้ อปท. มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถจัดหาบริการสาธารณะตามภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการพึ่งพาเงินอุดหนุนจากรัฐบาล รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในฐานะผู้ประกอบการในท้องถิ่นอีกด้วย