เมื่อจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พุ่งสูงขึ้นจนยอด “ในระบบ” สูงกว่า 2 หมื่นรายเป็นวันแรก ยังไม่รวมผู้ติดเชื้อที่ยังไม่ได้รับการตรวจที่กระจายอยู่ทั่วภูมิภาค จำนวนผู้ป่วยล้นทั้งโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอย

 

          แม้ว่าจะมีความพยายามจากส่วนกลางในการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลสนามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ดูจะไล่ไม่ทันจำนวนผู้ป่วยที่มากขึ้นทุกที

 

          กระทั่งมีแนวคิดเสนอการจัดตั้งศูนย์พักคอย “ 1 ตำบล 1 ศูนย์พักคอย” เพื่อให้ท้องถิ่นได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ หยุดผู้ป่วยสีเขียวมิให้มีการอาการหนักจนเป็นผู้ป่วยสีเหลืองและสีแดง ลดจำนวนผู้ป่วยหนักตั้งแต่ต้นทาง เพราะต้องยอมรับว่า หากรอการจัดการจากส่วนกลางอาจไม่เพียงพอและไม่ทันต่อเหตุการณ์อีกต่อไปแล้ว

 

 

          เมื่อท้องถิ่น “อาจจะ” ได้จัดการศูนย์พักคอยแบบ 1 ตำบล 1 แห่งแล้ว สิ่งที่ต้องเตรียมการต่อมา คือ วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมเพื่อรองรับผู้ป่วย หนึ่งในนั้นคือ เตียง ปัจจุบันหันมาใช้เตียงจากลังกระดาษ เพราะราคาถูก สะดวกทั้งด้านการขนส่งและการประกอบ ทั้งยังแข็งแรงรับน้ำหนักได้มากถึง 100 กก.  แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ผู้ผลิตไม่สามารถผลิตได้ทันตามความต้องการ

 

          แนวคิดการนำ “แคร่ไม้ไผ่” มาทำเตียงสนาม จึงถูกยิบยกขึ้นมาพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง

 

 

          แคร่ไม้ไผ่ นับเป็นภูมิปัญหาท้องถิ่น ที่ใช้วัสดุที่มีในพื้นที่ และฝีมือของคนในชุมชน บางหมู่บ้านแคร่ไม้ไผ่กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเกือบทุกบ้าน และกลายเป็นสินค้า OTOP ที่สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน แคร่ที่ทำจากไม้ไผ่มีน้ำหนักไม่มากนัก แต่รับน้ำหนักได้มากกว่า 100 กก. วัสดุทำมาจากธรรมชาติ หากหมดประโยชน์แล้ว ก็ไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญ ราคาแคร่ไม้ไผ่ เริ่มต้นที่หลักร้อยเท่านั้น

 

          เหนือสิ่งอื่นใด การเลือกใช้แคร่ไม้ไผ่เป็นเตียงผู้ป่วย ยังช่วยต่อลมหายใจให้กับเศรษฐกิจชุมชน ที่กำลังซบเซาจากพิษโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี

 

(ขอบคุณภาพจาก www.thaireference.com)

 

          สำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการนำร่องแนวคิดดังกล่าวไปใช้จริงแล้ว คือ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก โดยซื้อแคร่ไม้ไผ่ที่จัดทำขึ้นโดยชมรมผู้สูงอายุและชาวบ้าน ในราคาเตียงละ 1,200 บาท ขณะที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ก็มีการนำร่องบริจาคเตียงไม้ไผ่ฝีมือคนในชุมชน ส่งมอบให้กับโรงพยาบาลในพื้นที่แล้วเช่นกัน

 

(ขอบคุณภาพจาก www.chiangmainews.co.th)

 

          นิตยสารผู้นำท้องถิ่น จึงรวบรวมชุมชนที่ผลิตแคร่ไม้ไผ่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนท้องถิ่นในการใช้เป็นเตียงสนาม ในศูนย์พักคอย ที่คาดว่ากำลังจะเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือชาวบ้าน “คนทำแคร่” ให้เกิดรายได้ จากเงินภาษีของประชาชนที่จะไหลสู่ชุมชนอย่างแท้จริง

 

(ขอบคุณภาพจาก www.chiangmainews.co.th)

   

กลุ่มอาชีพบ้านโนนลาน เทศบาลตำบลมิตรภาพ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม

วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมทำแคร่ไม้ไผ่ ต.แวงน่าง อ.เมือง จ.มหาสารคาม

วิสาหกิจชุมชนบ้านจำนัก ต.หนองปลิง อ.เมือง  จ.มหาสารคาม

วิสาหกิจชุมชนกลุ่มจักสานบ้านหัวงัว ต.หัวงัว อ.สนม จ.สุรินทร์

วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมงานประดิษฐ์กะลาและแคร่ไม้ไผ่  ต.เชียงแหว อ.ภุมภวาปี จ.อุดรธานี

วิสาหกิจชุมชนหัตถกรรมจักสานไม้ไผ่ ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

กลุ่มอาชีพชุมชนหนองลุมพุก เทศบาลเมืองบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น

กลุ่มอาชีพทำแคร่ไม้ไผ่บ้านบัว ต.บ้านตุ่น อ.เมือง จ.พะเยา

กลุ่มชาวบ้านชุมชนบ้านยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ

OTOP ชุมชนเทศบาลตำบลเขาหินซ้อน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

OTOP ชุมชนบ้านท่าหลวง เทศบาลตำบลเถิน อ.เถิน จ.ลำปาง

OTOP ชุมชนหมู่ 6 ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่

OTOP ชุมชนบุ่งหวาย-บ้านดอนชาด จ.อุบลราชธานี

กลุ่มจักสาน ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่บ้านสันติ 2 ม. 6 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา