จากกรณีที่ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาขยายเวลาลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90% ออกไปอีก 2 ปี เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ตาม พ.ร.ฎ.ลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท พ.ศ. 2563 และต่อเนื่องด้วย พ.ร.ฎ.ลดภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างบางประเภท (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2564  

          ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมายืนยันว่า จะไม่มีการขยายเวลาเพิ่มเติมอีก ในปี 2565 จะเดินหน้าเก็บภาษีเต็ม 100% เหตุเพราะในการลดภาษีแต่ละปีนั้น ทำให้รายได้ท้องถิ่นหดหายไปราวปีละ 3 หมื่นล้านบาท ถือเป็นภาระทางการคลัง และสร้างความเสียหายให้กับการเก็บรายได้ของรัฐบาล

          “การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ถือเป็นรายได้หลักของท้องถิ่น ซึ่งจากที่มีการลดภาษีที่ดินไป 2 ปีก่อนหน้านี้ ทำให้รายได้หายปีละมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท  โดยตามหลักเมื่อมีการลดภาษีไป 2 ปี รัฐบาลก็ต้องหาเงินไปอุดหนุนชดเชยให้ท้องถิ่น แต่ที่ผ่านมารัฐบาลได้เข้าไปอุดหนุนรายได้ให้แค่ปีเดียว ช่วงปี 62-63 เท่านั้น ส่วนปีภาษี 63-64 ไม่ได้ช่วยอุดหนุน เพราะงบประมาณมีจำกัด ดังนั้นจึงเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีที่ 100% ในปีนี้” นายอาคมกล่าว

          อีกทั้ง การลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 90% ที่ผ่านมาถูกมองว่า เป็นมาตรการที่ช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้สูง และกลุ่มคนชั้นกลางเท่านั้น ส่วนประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีมากกว่า 90% ไม่ได้ประโยชน์จากมาตรการนี้ เพราะการเสียภาษีตามอัตราที่กำหนดใน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเศรษฐีที่มีที่ดินรกร้างว่างเปล่าจำนวนมาก หรือผู้ที่มีที่อยู่อาศัยมากกว่า 1 หลังขึ้นไป ขณะที่คนส่วนใหญ่มีที่อยู่อาศัยเพียง 1 หลัง หรือส่วนมากจะเป็นการเช่าอาศัยเท่านั้น คนกลุ่มนี้จึงไม่ได้ประโยชน์จากการลดภาษีที่ดิน 

          ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ระบุว่า ในปี 2563 อปท.ขนาดใหญ่ 226 แห่ง มีรายได้จากการจัดเก็บจริง 1,990.14 ล้านบาท จากที่เคยเก็บได้จากภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ 24,020.25 ล้านบาท โดยมีรายได้ลดลง 22,030.11 ล้านบาท

          ขณะที่ท้องถิ่นขนาดเล็ก ทั้งเทศบาลตำบลและ อบต.อีกราว 7,500 แห่ง เคยจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดินกับภาษีบำรุงท้องที่ ปี 2562 ได้ 12,506.78 ล้านบาท แต่เก็บจริงได้ 1,349.38 ล้านบาท รายได้ลดลง 11,157.40 ล้านบาท

          ซึ่งปัจจุบันมีเพียงส่วนของเทศบาลตำบล และอบต.เท่านั้นที่ได้รับการจัดสรรเงินชดเชยภาษีที่ดิน จำนวน 10,067,590,000 บาท ที่จัดสรรผ่านไปยังกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ส่วนเทศบาลนคร เทศบาลเมือง พัทยา และ กทม. ที่มีกรอบวงเงินชดเชยราว 22,030 ล้านบาท ยังคงไม่มีคำตอบที่ชัดเจน