วันที่ 12 พฤษภาคม 2563 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการ ร่างกฎกระทรวงการหักเงินงบประมาณรายได้ประจำปีสมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ. …. ซึ่งกำหนดให้ราชการส่วนท้องถิ่นหักเงินจากประมาณการรายรับในงบประมาณรายจ่ายประจำปี สมทบเข้าเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมในอัตราร้อยละ 1 เป็นอัตราร้อยละ 2 เว้นแต่องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลและเมืองพัทยาให้หักเพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 3 และร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพ พ.ศ. …. เพื่อแก้ไขเพิ่มเติมอัตราบำเหน็จดำรงชีพของข้าราชการส่วนท้องถิ่นเพิ่มขึ้นจากเดิมที่กำหนดในอัตรา 15 เท่าของบำนาญรายเดือนที่ได้รับ แต่ไม่เกิน 500,000 บาท
สำหรับร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราและวิธีการรับบำเหน็จดำรงชีพนั้น กรณีผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุต่ำกว่า 65 ปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 200,000 บาท กรณีมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปแต่ไม่ถึง 70 ปี ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 400,000 บาท สำหรับผู้รับบำนาญซึ่งมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ให้มีสิทธิขอรับบำเหน็จดำรงชีพได้ไม่เกิน 500,000 บาท
ทั้งนี้ เพื่อให้ข้าราชการส่วนท้องถิ่นมีสิทธิได้รับบำเหน็จดำรงชีพเช่นเดียวกันกับข้าราชการพลเรือนตามกฎกระทรวง รวมทั้งช่วยเหลือข้าราชการผู้รับบำนาญส่วนท้องถิ่นให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างเหมาะสมสอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน