นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2562 ในส่วนของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้แจ้งไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.ทั่วประเทศ เพื่อชี้แจงขั้นตอนการปฏิบัติโดยละเอียดตั้งแต่การเตรียมการก่อนเกิดภัย ขณะเกิดภัย และหลังเกิดภัย รวมทั้งกำชับให้ อปท.รายงานผลการปฏิบัติงาน และติดตามข้อมูลสาธารณภัยด้านน้ำจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไปจนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะเข้าสู่สภาวะปกติ เพื่อให้ อปท.ทั่วประเทศ สามารถร่วมมือกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้กับประชาชนให้ทันท่วงที โดยเฉพาะการเตรียมการทั้งน้ำอุปโภคและบริโภค รวมน้ำเพื่อภาคการเกษตร
สำหรับการเตรียมการก่อนเกิดภัยนั้น อปท. จะต้องสำรวจและจัดทำบัญชีข้อมูลสภาพพื้นที่เสี่ยงภัย ข้อมูลแหล่งภาชนะเก็บกักน้ำและข้อมูลเครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำ ทั้งของ อปท. ส่วนราชการและเอกชนในพื้นที่ไปจนถึงติดตามสภาพอากาศ น้ำฝน ระดับน้ำในแม่น้ำ เขื่อน อ่างเก็บน้ำ หรือระดับน้ำทะเลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากมีแนวโน้มว่าจะประสบภัยแล้ง ให้จัดตั้งศูนย์เตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง เพื่อเตรียมความพร้อมไปจนถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยได้เตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ส่วนการดำเนินการขณะเกิดภัย ให้สำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ตนเอง และในกรณีที่มีความจำเป็นต้องช่วยเหลือประชาชนให้ นำเงินสำรองจ่ายใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นลำดับแรก หากไม่เพียงพออาจจะโอนเงินงบประมาณเหลือจ่าย หรือเงินงบประมาณในแผนงาน/โครงการอื่นที่ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายหรือมีความจำเป็นน้อยกว่าไปตั้งจ่ายเพิ่มเติมได้ และหากยังไม่เพียงพอ ผู้บริหารท้องถิ่นสามารถอนุมัติให้จ่ายขาดเงินสะสมไปช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้ด้วย และ อปท. ต้องจัดหาน้ำสะอาด เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการอุปโภคบริโภค ตลอดจนวัสดุอุปกรณ์ หรือครุภัณฑ์ สำหรับผลิตน้ำสะอาดเพื่อบริการประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า พร้อมให้อำนวยความสะดวกแก่หน่วยงานต่างๆ ที่นำน้ำสะอาดหรือเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกจ่ายแก่ประชาชนด้วย
สำหรับการดำเนินการหลังเกิดภัย ให้ อปท. เร่งสำรวจความเสียหายจากภัยแล้ง ทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมทั้งปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในด้านต่างๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ/จังหวัด ตามลำดับ โดยต้องกำหนดพื้นที่การช่วยเหลือตามจำเป็นเร่งด่วนอย่างเป็นธรรมและเสมอภาค และให้มีการเฝ้าระวังเรื่องสุขลักษณะ และสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นการป้องกันโรคระบาดและโรคติดต่อที่อาจเกิดขึ้น ไปจนถึงเร่งฟื้นฟูและส่งเสริมการประกอบอาชีพให้แก่ผู้ประสบภัย โดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนมีรายได้จากการประกอบอาชีพและเป็นการป้องกันการอพยพเคลื่อนย้ายแรงงานเข้าสู่เมืองใหญ่ ที่สำคัญการดำเนินการทั้งหมดนี้ ต้องไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือด้วย