วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่ข้อมูลลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล และนายกเทศมนตรี ที่ กกต.หนดให้ผู้สมัครเลือกตั้งสามารถหาเสียงได้จนถึงกำหนดเวลา 18.00 น. ของวันที่ 27 มี.ค. 64 โดยมีข้อห้ามดังนี้ ห้ามผู้สมัครดำเนินการ หรือยินยอมให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดดำเนินการ นำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง (ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงฯ ข้อ 22) และห้ามผู้สมัครดำเนินการ หรือยินยอมให้พรรคการเมืองหรือผู้ใดดำเนินการ ดังนี้
- แจกจ่ายเอกสารโดยการวางหรือโปรย แจกจ่ายเอกสารเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ
- แจกจ่ายเอกสารโดยไม่ระบุชื่อ แจกเอกสารหรือวีดิทัศน์เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งที่มิได้มีการระบุชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จำนวน และวันเดือนปีที่ผลิตไว้อย่างชัดเจน
- หาเสียงโดยไม่แจ้ง ผอ.สนง.กกต.จว. ใช้พาหนะต่างๆ ในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือจัดสถานที่หรือเวทีเพื่อโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง ที่มิได้แจ้งรายละเอียดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบ
- ใช้ถ้อยคำที่รุนแรงปลุกระดม หาเสียงเลือกตั้งโดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรง หรือปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่
- ช่วยเหลือเงิน ทรัพย์สินต่าง ช่วยเหลือเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามปกติ ประเพณีต่างๆ
- นำข้อมูลของพรรคการเมืองมาหาเสียงโดยไม่ได้รับความยินยอม หาเสียงเลือกตั้งโดยนำชื่อของพรรคการเมือง สัญลักษณ์ของพรรคการเมือง คติพจน์ ค าขวัญ หรือภาพบุคคล โดยมิได้มีหนังสือให้ความยินยอมจากบุคคลหรือพรรคการเมืองนั้น
- เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เปิดเผย เผยแพร่ ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนในระหว่างเวลา เจ็ดวันก่อนวันเลือกตั้งจนถึงเวลาปิดการออกเสียงลงคะแนน
- สำรวจความเห็นของประชาชน โดยมีเจตนาไม่สุจริต มีลักษณะชี้นำเพื่อผลต่อการลงคะแนนเลือกหรือไม่เลือกผู้สมัครใด